เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 17 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.อ. สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม ผกก.สภ.บางโทรัด และกำลังตำรวจในสังกัด กองพิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ร่วมกันตรวจสอบเหตุยิงกันเสียชีวิตในบ้านพัก ไม่มีเลขที่ ริมทางรถไฟ ม.2 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านมุงจากลักษณะคล้ายกระต๊อบริมบ่อ ภายในพบศพ นางบุปผา (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี และ นางสาวอริษรา (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ทั้งสองถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. กระสุนถูกตามร่างกายและศีรษะนอนจมกองเลือดเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบ ด.ญ.เอ นามสมมุติ อายุ 2 ปี 2 เดือน ถูกกระสุนถากเข้าที่เอว 1 นัด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งรพ.รักษาอาการโดยด่วน

จากการสอบถาม นายบุญมา (สงวนนามสกุล) อายุ 83 ปี สามีของ นางบุปผา ผู้เสียชีวิต ให้การอ้างว่า ได้มาเช่าทำบ่อปลาเลี้ยงกุ้งอยู่ที่นี่และพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน ลูกสาวทำงานอยู่ร้านขายกาแฟกับหลานสาววัย 2 ขวบ โดยลุงทำหน้าที่ดูแลบ่อกุ้ง ส่วนป้าเลี้ยงหลาน ก่อนเกิดเหตุช่วงตอนกลางวัน ขณะที่ลุงไปดายหญ้าอยู่ด้านหลังกระต๊อบตรงบ่อเลี้ยงกุ้ง มีชายวัยรุ่น 2 คน อายุประมาณ 20 ปีกว่า ๆ มายิงปืนข้างบ้าน

โดยหนึ่งในนั้นเป็นหลานชายของญาติเมีย มากับเพื่อนอีก 1 คน อายุไล่เลี่ยกัน แต่ลุงไม่รู้จัก พอลุงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นกว่า 20 นัด ก็รีบเดินมาดูแล้วก็ตะโกนว่า ทำอะไรกัน พวกเขาก็บอกว่ามายิงนก ลุงจึงบอกว่าไปยิงที่อื่นหลานกูร้อง จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วลุงก็เดินกลับไปดายหญ้าต่อ ทำให้ไม่รู้ว่าภายหลังเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่พวกนั้นจะออกไป ส่วนป้าได้ออกไปแจ้งความที่โรงพักแล้วก็กลับมาตอนเย็น กระทั่งมาตอนช่วงหัวค่ำ ตนไปเปิดน้ำเข้าบ่อ แล้วก็ได้ยินเสียงปืนดังปัง ๆ ตนก็เดินมาเรียกที่บ้านแต่ปรากฏว่าเงียบกันหมด มีแต่หลานบอกว่ายายตาย ตนก็ขึ้นไปดูเห็นเลือดเต็มไปหมดเลยสองคนแม่ลูก จากนั้นตนก็ไปหยิบโทรศัพท์มาโทรไป 191 แจ้งว่ามีคนโดนยิงให้รีบมา

ด้านน.ส.จุฑามาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ลูกสาวคนโตของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตอนกลางวันแม่โทรมาเล่าให้ฟังว่า เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วแม่ก็ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางโทรัด ซึ่งตนที่อยู่อีกบ้านหนึ่งก็ไปเป็นเพื่อนแม่ด้วย โดยช่วงที่อยู่โรงพักทางญาติของแม่ที่เป็นครอบครัวของหลานที่เข้ามาก่อเหตุกับเพื่อนนั้น ได้โทรศัพท์มาหาแม่แล้วบอกว่า ให้ช่วยถอนแจ้งความ อย่าเอาเรื่องกับหลานเลย แต่แม่บอกกลับไปว่า จะไม่ให้แจ้งความได้อย่างไร ก็เพื่อนหลานเล่นเอาปืนจ่อกลางหน้าผากแล้วยังลงมาที่กลางหน้าอกอีก เพราะว่าหลังจากที่ลุงเดินออกมาบอกให้ไปยิงที่อื่นหลานร้อง ตนก็บอกว่าถ้าไม่หยุดจะไปแจ้งความ

ปรากฏว่า เพื่อนหลานที่มีปืนในมือ เดินเข้ามาเอาปืนจ่อกลางหน้าผาก แล้วลงมาที่กลางหน้าอกอีก พร้อมกับพูดว่าถ้าไปแจ้งความจะยิงให้ตาย ทำให้แม่กลัวมากแต่ก็มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน กระทั่งต่อมาตอนเย็นพอหลังจากที่แม่กับตนให้ปากคำเสร็จสิ้นที่โรงพักแล้ว ตนก็ให้แม่กลับบ้านกับน้องสาวที่เลิกงานพอดี จากนั้นพอตอนหัวค่ำก็ปรากฎว่ามีคนร้ายมายิงแม่กับน้องเสียชีวิตในบ้าน และยังมีหลานวัย 2 ขวบซึ่งเป็นลูกของน้องสาว ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวในห้องไอ.ซี.ยู ทั้งนี้หากจะถามว่าตนสงสัยใครก็คงหนีไม่พ้น 2 คนข้างต้น เพราะที่บ้านไม่เคยมีเรื่องหรือมีปัญหาใดๆกับใครมาก่อน

ด้าน ตำรวจสภ.บางโทรัด เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุทางผู้เสียชีวิตมาแจ้งความว่า นายเกียร์ และ นายปาล์ม ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เข้ามาใช้อาวุธปืนยิงและข่มขู่ ขณะอยู่ในบ้าน ทางตำรวจเชื่อว่า น่าจะเป็นฝีมือของวัยรุ่นดังกล่าว ขณะนี้กำลังติดตามหาตัวมาสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.