จากกรณีเหตุการณ์กลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ มหาวิทยาลัยชื่อดัง รุมทำร้ายผู้ปกครองและนักศึกษารุ่นน้องในสถานศึกษา หลังจากฝ่ายผู้ปกครองต้องการย้ายลูกหลานไปเรียนที่อื่น ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงการบริหารงานของมหาวิทยาลัยดังกล่าว ว่าทำไมจึงปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นได้ การก่อเหตุกระทำต่อหน้า ครู-อาจารย์ ซึ่งก็ไม่สามารถห้ามปรามลูกศิษย์ได้เช่นกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายตั้ม (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง พื้นที่ จ.นนทบุรี สาขาวิศวะเครื่องกลปี 2 ที่เคยได้เข้ารับน้องโหดกับรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัย แต่ทนไม่ไหว จึงขอออกจากระบบว่า ตนเป็นนักศึกษามหาลัยชั้นปีที่สอง ตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่ในมหาลัยมหาลัยนี้ ย้อนไปในช่วงปีหนึ่ง ที่ผ่านมา ได้เคยเข้าไปรับน้องโหด กับพวกรุ่นพี่ที่เป็นข่าว ซึ่งทางรุ่นพี่ได้มาชักชวนตน โดยอ้างว่าจะมีการช่วยติวหนังสือ ออกกำลังกายเล่นกีฬา ตนจึงหลงเชื่อและเข้ารับน้อง โดยไปไปกับเพื่อนในห้องประมาณ 10 คน

วันแรกที่ได้เข้าการรับน้อง ทางรุ่นพี่ก็ได้พาตนและเพื่อนไปสถานที่ย่านแยกบางพลู ซึ่งเป็นจุดที่เป็นข่าวในขณะนี้ หลังจากเข้าไป ทางรุ่นพี่ก็จะยืนล้อมวง มีการสั่งซ่อมเหมือนระบบทหาร สั่งให้ตนลุกนั่ง วิดพื้น หัวปักดิน ตามที่น้องในข่าวได้ให้ข่าว ซึ่งตนก็ต้องทำตามเนื่องจากได้เข้าไปแล้ว ส่วนประเด็นที่มีการทำร้ายร่างกาย กินดิน ในส่วนนี้ตนไม่ได้โดน

สำหรับประเด็นที่มีการจุดไฟเผาอวัยวะเพศ อันนี้ตนก็ไม่ทราบรายละเอียด เพราะว่าตนเข้าไปรับน้องได้เพียง 7 วันเท่านั้น เพราะสภาพร่างกายไม่ไหวขาใส่เหล็กเคยประสบอุบัติเหตุมาก่อน ในระหว่างที่รับน้อง 7 วัน บางวันรุ่นพี่ก็ให้ไปเตะบอล แต่ไม่มีการติวหนังสืออย่างที่กล่าวอ้าง รายละเอียดอย่างอื่นตนไม่ทราบจริง ๆ ว่าคนที่รับน้องอยู่ขณะนี้ ทางรุ่นพี่ได้ทำอะไรไปบ้าง เพราะระยะเวลาที่ตนเข้าไปมันเป็นเพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น

หลังจากที่ตนขอออกจากระบบดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าร่างกายรับไม่ไหว ทางรุ่นพี่ก็ไม่ได้ยื้อหรือข่มขู่แต่อย่างใด ตนก็ออกมาเรียนตามปกติตอนเย็นก็ไม่ได้ไปยุ่งไปรับน้อง กับพวกรุ่นพี่ ในระหว่างที่เรียนตอนนี้ตนก็ไม่ได้มีปัญหากับกลุ่มรุ่นพี่ ไม่ได้โดนข่มขู่ แต่ตนไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เข้ามาก็เข้าเรียนอย่างเดียว ต่างคนต่างอยู่ ไม่ได้ถูกไล่ออกย้ายที่เรียนแต่อย่างใด หลังจากคราวนี้ได้ออกไปทางพ่อแม่ตนก็รับทราบถึงเรื่องนี้ ทางพ่อแม่ตนก็ยังเป็นห่วงตน แต่ตนก็ยืนยันว่าไม่ได้กลัว เพราะไม่ได้ไปยุ่งอะไร ส่วนที่เรื่องออกข่าวที่มีปัญหากัน ตนไม่ทราบ อาจจะเป็นปัญหาส่วนตัวบุคคลหรือไม่ ตนพูดได้แค่นี้เพราะกลัวมีปัญหาระหว่างเรียน.