สวัสดีแฟนๆ “บันเทิงเดลินิวส์” ที่น่ารักทุกคน วนกลับมาพบเจอกันเป็นประจำทุกสัปดาห์เลยนะคะ กับคอมลัมน์บันเทิงสุดฮอตอย่าง “SeoulStation” พื้นที่ที่จะพาแฟนๆ ทุกคนมาอัปเดตข่าวสารของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีในรอบสัปดาห์ และแน่นอนจะต้องเจอกับนักข่าวสาวตัวน้อยผู้แสนน่ารักอย่าง “นูน่าเมี้ยน” เจ้าประจำที่ขนเอาพิเศษ ความสุดเอ็กซ์คลูซีฟมาฝากอย่างจุใจเช่นเคย โดยสัปดาห์นี้นูน่าจะพาไปพูดคุยเรื่องราวของ “Valentine Boy” อย่างหนุ่ม “แจฮยอน” (Jaehyun) สมาชิกวงบอยแบรนด์ฮอตระดับโลก “NCT” จากบริษัทบันเทิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเกาหลีใต้อย่าง “SM Entertainment” (เอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์) ที่ตอนนี้เขากำลังก้าวเดินขึ้นไปอีกขั้นของเส้นทางดนตรีในฐานะ “ศิลปินเดี่ยว” อย่างเต็มตัว ด้วยการปล่อยอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกฝนชีวิตซึ่งใช้ชื่อว่า “J” ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เวลา 16.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดยจะมีเพลงในอัลบั้มทั้งหมด 8 เพลง ซึ่งมีบรรยากาศหลากหลาย รวมไปถึงเพลงไตเติ้ลชื่อว่า “Smoke” ที่จะมีทั้งหมด 2 เวอร์ชัน สำหรับภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษเท่านั้น เพื่อที่จะทำให้แฟน ๆ ทั่วโลกต่างเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และเขาพร้อมแล้วที่นำเสนอผลงาน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะอันโดดเด่นของเขา
สำหรับอัลบั้ม “J” นี้ แจฮยอนไม่เพียงมีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลง และการแต่งเพลงเท่านั้น แต่ยังเขายังมีส่วนร่วมในการวางแผนทิศทางของงาน รวมถึงชื่ออัลบั้มเป็นการส่วนตัวอีกด้วย นอกจากนี้เขายังตั้งชื่ออัลบั้มว่า “Jay” โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนิสัยในการเขียนชื่อย่อ “J” ในสิ่งของของเขา ทำให้ชื่ออัลบั้มนี้แสดงถึงตัวตนของเขาอย่างเป็นส่วนตัวและมีความหมายมากที่สุด โดยเพลง Smoke จะเป็นเพลงแนวฮิปฮอปอาร์แอนด์บีที่ผสมผสานเสียงร้องที่ไพเราะและเสียงกีตาร์ริฟฟ์ที่เข้มข้นผ่านไลน์เบสเป็นจังหวะ และการขับร้องที่น้อยที่สุด เนื้อเพลงที่แจฮยอนมีส่วนร่วมในการเขียนจะเปรียบเทียบช่วงเวลาที่โรแมนติกในรถกับคนที่คุณรักที่กำลังสูบบุหรี่ขึ้นมาจากกล่องเสียงพร้อมกับดนตรี และหัวใจที่เฉียบแหลมแต่ซื่อสัตย์ผสมผสานกันเพื่อให้เพลงมีเสน่ห์ที่หลากหลาย
โดยเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมาได้มีการปล่อยวิดีโอตัวอย่างอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก “The Smoky Night” ซึ่งได้รับการเผยแพร่ในช่อง YouTube ของ NCT โดยในคลิปวิดีโอแจฮยอนกำลังที่ตัดแต่งดอกไม้ การเปลี่ยนแปลงที่สะอาดตาและเซ็กซี่ของแจฮยอนเป็นฉากดอกไม้ควันที่ทำให้มองเห็นคอนเซ็ปต์ของ ดึงดูดสายตา จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเป็นชุดสูททางการ และนำดอกไม้ไปแช่ในช่องแช่แข็งที่เต็มไปด้วยดอกไม้แช่แข็งอื่นๆ บรรยากาศของวิดีโอตัวอย่างบ่งบอกถึงบรรยากาศโรแมนติกและความล้ำสมัย ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวกับบุคลิกที่เป็นที่รู้จักของแจฮยอน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเดบิวต์โซโล่เดี่ยวของเขา แจฮยอนได้ทำการปล่อยเพลง b-side สองเพลงล่วงหน้าอย่าง “Roses” และ “Dandelion” เพื่อให้แฟนๆ ได้สัมผัสกับสิ่งที่อัลบั้มเต็มจะนำเสนอ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมาด้วย โดยทั้ง 2 เพลงโดดเด่นในเรื่องความรู้สึกละเอียดอ่อนของแจฮยอนและความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการแยกประเภทแนวเพลง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนเพลงจนสามารถพุ่งทะยานขึ้นสู่อันอับ 1 บนชาร์ตยอดขายอัลบั้มดิจิทัล QQ Music ของจีน ซึ่งเพลง “Roses” เป็นเพลงแนวอาร์แอนด์บีที่เตือนความทรงจำเกี่ยวกับดอกกุหลาบ และละลายความรู้สึกคิดถึงอีกคนหนึ่ง แจฮยอนไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมในการเขียนและแต่งเนื้อเพลงเท่านั้น แต่เขายังสร้างอารมณ์ R&B ที่ลึกซึ้งด้วยเสียงร้องที่น่าดึงดูด ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงอารมณ์ของตัวเอง ส่วนเพลง “Dandelion” เป็นเพลงอาร์แอนด์บีจังหวะกลางที่สดใสและร่าเริง พร้อมด้วยเครื่องดนตรีสไตล์แจ๊ส ซาวด์คลาสสิก และทำนองที่ติดหู เนื้อเพลงที่แต่งโดยแจฮยอน เป็นเรื่องเกี่ยวกับดอกแดนดิไลออนที่เบ่งบานบนท้องถนน ซึ่งทุกคนอย่างน้อยหนึ่งครั้งในวัยเด็กของพวกเขา ดึงความทรงจำอันบริสุทธิ์ออกมา และแม้ว่าทั้งสองเพลงจะเกี่ยวกับดอกไม้ “แต่ก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
สำหรับ “แจฮยอน” เป็นบุคคลที่โดดเด่นในวงการ K-pop ตั้งแต่เปิดตัวกับ “NCT” ในปี 2016 ในฐานะสมาชิกของ “NCT 127” ซึ่งเขาไม่เพียงแต่พิสูจน์ให้เห็นถึงทักษะการร้องเพลง และการแสดงที่แสนโดดเด่นของเขาผ่านกิจกรรมของวง NCT, NCT 127 และ NCT DoJaeJung เท่านั้น แต่เขายังได้มีส่วนสนับสนุนให้วงประสบความสำเร็จไปทั่วโลกอีกด้วย รวมไปถึงได้เข้าร่วมซับยูนิตใหม่ NCT DoJaeJung ร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆ อย่าง “โดยอง” (Doyoung) และ “จองอู” (Jungwoo) ซับยูนิตนี้ได้เปิดตัวอัลบั้มแรก “Perfume” ในปี 2023 ซึ่งช่วยตอกย้ำอิทธิพลของแจฮยอนในวงการให้มากขึ้น นอกจากนี้แจฮยอนยังพยายามแสดงความสามารถใจผ่านเพลง “Forever Only” และ “Horizon” ที่ถูกเผยแพร่ผ่านทาง NCT ช่อง “NCT LAB” พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่ไม่มีใครเทียบได้ด้วย
โดยผลงานโซโล่แรกอย่างไม่เป็นทางการของแจฮอยนก็คือเพลง “Try Again” ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลดิจิทัลที่ได้คอลแลปร่วมกับ “d.ear” ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2017 โดยเพลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์เพลงดิจิทัลของ “SM STATION (ซีซั่น 2)” ของ “SM Entertainment” ซึ่งเป็นโครงการการปล่อยเพลงผ่านระบบดิจิทัล โดยจะปล่อยเพลงทุก ๆ วันศุกร์ ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2016 ซีซั่นแรกได้สิ้นสุดลงในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2017 เป็นจำนวนเพลงทั้งสิ้น 52 เพลง และซีซั่นที่ 2 ได้เริ่มต้นในวันที่ 31 มีนาคม 2017 และสิ้นสุดในลงใน วันที่ 6 เมษายน 2018 เป็นจำนวนเพลงทั้งสิ้น 56 เพลง โดยเพลง Try Again เป็นเพลงป๊อบบัลลาดที่น่าจดจำด้วยเสียงอะคูสติกเรียบง่าย เนื้อเพลงเล่าถึงเรื่องราวของคู่รักที่คบกันมานาน ที่รู้สึกถึงการเลิกราที่กำลังจะมาถึง แต่พอพวกเขามองย้อนกลับไปถึงเวลาที่เคยใช้ร่วมกัน พวกเขาก็ได้มั่นใจถึงความรักที่พวกเขามีให้กันอีกครั้ง ทำให้ซิงเกิ้ลนี้แจฮอยนได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม พร้อมได้รับคำชมจากแฟนๆ อย่างมากมาย ด้วยเสียงที่ฟังแล้วนุ่มนวล ไพเราะ ทำให้หลายๆ คนยกให้เพลงนี้เป็นอีกหนึ่ง “เพลงที่ดีที่สุด” ของวงการเพลงเลย
หลังจากนั้นในปี 2022 แจฮยอนได้เปิดตัว “โซโล่เพลงแรกอย่างเป็นทางการ” ของเขาอย่างเพลง “Forever Only” ซึ่งปล่อยออกมาในวันที่ 18 ส.ค. เป็นเพลงที่ 4 ในโปรเจกต์ “NCT LAB” โดย Forever Only เป็นเพลงอาร์แอนบี ที่น่าดึงดูดใจที่ประสานกันของเสียงกีต้าร์และเสียงร้องที่ไพเราะ เพลงแสดงถึงความรู้สึกเหงาและความปรารถนาที่จะมีใครสักคนเคียงข้างตลอดไป พร้อมนำเสนอสองสิ่ง คือ ตัวตนเขาเองในฐานะศิลปินเดี่ยว และแนวเพลงใหม่ที่เขาเรียกมันว่า “ sexy lonely” – ความเหงาเปล่าเปลี่ยว โดดเดี่ยวอย่างเซ็กซี่ นอกจากนี้แจฮยอนยังให้สัมภาษ์ถึงการแต่งเพลงนี้ด้วยว่า “สำหรับการแต่งเพลงนี้ ผมนึกถึงความเหงาในเพลงก่อนครับ คราวนี้ผมนึกภาพก่อน และการเขียนเนื้อเพลงจะกลายเป็นเรื่องง่ายเมื่อคุณมีภาพนั้นอยู่ในหัว ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ปล่อยเพลงที่เต็มไปด้วยเสียงและอารมณ์ของตัวเอง ผมต้องการให้ผู้ฟังรู้สึกใกล้ชิดและรู้จักตัวตนที่แท้จริงของผมมากขึ้นผ่านดนตรี” พร้อมบอกว่า “ผมมีโอกาสได้เข้าไปทำเพลงในห้องสตูดิโออยู่เรื่อยๆ และมีความคิดที่อยากจะปล่อยเพลงโซโล่ของตัวเองมานานมากแล้ว เมื่อถึงเวลาและได้รับโอกาสจากทางค่าย จึงเลือกที่จะทำเพลงแนว R&B ซึ่งเป็นสไตล์เพลงที่เขาชอบอยู่เป็นทุนเดิม และหลายๆ เพลงที่เขาชอบฟังมักมีกลิ่นอายความเป็น R&B อยู่เสมอ” และแน่นอนหลังจากปล่อย Forever Only ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากแฟนๆ ทั่วโลก จนทำให้เพลงติด Top Chart ใน iTuens กว่า 13 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
และตามมาด้วยโซโล่ลำดับที่ 3 อย่าง “Horizon” ที่ถูกปล่อยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2023 ซึ่งเป็นการกลับมาอีกครั้งของแจฮยอนกับโปรเจกต์ NCT LAB โดย Horizon เป็นเพลงอาร์แอนด์บีจังหวะกลางที่มีกลิ่นอายความเป็นแจ๊ส พร้อมผสมผสานคีย์บอร์ด และกีต้าร์ริฟซาวด์ ซึ่งเพลงนี้แจฮยอนมีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้อง และทำนอง พร้อมถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเสียงร้องทุ้มนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ของแจฮยอน ร่วมกับทำนองสว่างอบอุ่นเหมือนฤดูร้อนในอิตาลีที่เป็นสถานที่ถ่ายทำมิวสิควิดีโอของเพลงนี้ แจฮยอนพาแฟนๆ ท่องเที่ยวทั้งในเมืองและกลางทะเลด้วยการล่องเรือยอร์ชในท่าทีสบายๆ แม้บรรยากาศโดยรอบจะมีความหม่น แต่ก็แฝงไปด้วยความสดใสของเสียงเพลง นอกจากนี้เพลงนี้ แจฮยอน ยังเผยถึงได้รับแรงบันดาลใจที่แต่งเพลงนี้ว่ามามากจากความรู้สึก ณ วันหนึ่งที่ต้องเผชิญกับฟ้าที่ไม่สดใส แต่ไม่สามารถหลักเลี่ยงได้ และจำต้องนั่งเครื่องบินไปทำงานต่างถิ่น กระทั่งเครื่องบินแลนด์ดิ้ง ท้องฟ้าที่เคยหม่นหมองก็พลันสดใสขึ้นมา จนกลายเป็นที่มาของเพลงนี้
นอกเหนือจากงานเพลงแล้ว แจฮยอนยังก้าวเข้าสู่วงการการแสดงอีกด้วย โดยเขาเริ่มแสดงครั้งแรกในปี 2022 จากซีรีส์แนวโรแมนติกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเรื่อง “Dear M” กับบทบาท “ชามินโฮ” นักศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ปี 2 บอกเลยว่าการแสดงครั้งแรกของเขาคือต้องการโชว์ภาพลักษณ์ใหม่ๆ ให้แฟนๆ ได้เห็นกัน และแน่นอนแจฮยอนไม่ทำให้ผิดหวังเพราะฝีมือการแสดงของเขาไม่ธรรมดา เลยจริงๆ นอกจากนี้ล่าสุดเขาเตรียมที่จะก้าวเข้าสู่วงการจอเงินด้วยภาพยนตร์เรื่อง “You Will Die in 6 Hours” กับบทบาท “จุนดู” หนุ่มที่เห็นภาพเหตุการณ์สิ่งที่ไม่คาดคิด และเขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ ซึ่งประกบคู่กับ “พัคจูฮยอน” (Park Ju Hyun) ผลงานการกำกับจาก “ผู้กำกับอียุนซอก” โดยเป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกัน ผลงาน “Kazuaki Takano” ปรมาจารย์แห่งนวนิยายลึกลับของญี่ปุ่น และปัจจุบันเขากำลังถ่ายทำซีรีส์เกาหลีเรื่อง “I Believe You” กับบทบาท “ซออิลนัม” เหยื่อของความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ที่ถูก “ยังซอจุน” (รับบทโดยอีแชมิน) คอยตามรังควานอีกด้วย
เรียกได้ว่าเส้นทาง และประสบการณ์ที่ “แจฮยอน” สั่งสม และเก็บเกี่ยวมันมาตลอดหลายปี พร้อมกับการพัฒนาตนเองด้วยศักยการภาพอันไร้ขีดจำกัด ทั้งเรื่องความสามารถเรื่องแร็ปเปอร์ของวง ความเป็นเมนโวคอล รวมไปถึงเรื่องการเต้นแจฮยอนก็ไม่น้อยหน้า และมีความสามารถทางด้านการแสดงที่โดดเด่นไม่แพ้กัน แถมความวิชวลก็ไม่ใช่เล่นๆ จนใครหลายคนยกให้เป็น “ลูกรักพระเจ้า” ทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้รวมกันแล้วมันทำให้แจฮยอนเป็นอีกหนึ่งไอดอลผู้ “เปี่ยมด้วยพลังแห่งความฝัน” และเป็นไอดอลที่มีความสามารถ “All around” อีกคนหนึ่งของวงการเลยทีเดียว บอกได้เลยว่าอัลบั้มเดี่ยวแรกของแจฮยอนจะต้องอัดเน้นไปด้วยคุณภาพ และเรื่องราวความเข้มข้นผ่านประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมาอย่างยาวนาน รับรองเลยว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังในฐานะ “ศิลปินเดี่ยว” อย่างแน่นอน!.
คอลัมน์ “SeoulStation”
โดย “นูน่าเมี้ยน”