สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ว่าคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ รวมถึงนายทอม ซัลลิแวน ที่ปรึกษาประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และนายไมเคิล ชิฟเฟอร์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ ( ยูเอสเอด ) พบหารือผ่านระบบวีดีโอคอล กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลแห่งชาติ ( เอ็นยูจี ) สภาที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ และกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหารอีกหลายแห่ง รวมถึงฝ่ายการเมืองของกองกำลังกะเหรี่ยง และรัฐชิน


ขณะที่แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า ทุกฝ่ายที่เข้าร่วมการหารือเห็นพ้อง “ความสำคัญ” ของการรักษาแรงกดดันต่อรัฐบาลทหารเมียนมา “เพื่อให้ปรับเปลี่ยนท่าที” โดยรัฐบาลวอชิงตันจะเดินหน้ามอบความสนับสนุน และขยายขอบเขตความช่วยเหลือ ให้แก่ “ฝ่ายนิยมประชาธิปไตย” เพื่อให้มีความสามัคคีระหว่างกัน ตลอดจนการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชน


นอกจากนี้ แถลงการณ์ระบุเกี่ยวกับ การให้ความร่วมมือกับประชาคมโลก โดยเฉพาะสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) และผู้แทนพิเศษด้านกิจการเมียนมาของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์ในประเทศ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐเกิดขึ้น หลังเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น นายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน เยือนเมียนมาอย่างเป็นทางการ พบหารือกับพล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลปักกิ่งยืนยัน การสนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนผ่านตามแนวทางประชาธิปไตย และกระบวนการคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมาต้องเป็นไปตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน.

เครดิตภาพ : AFP