วันนี้ (16 ส.ค. 67) ที่โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี กระทรวงมหาดไทยจัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ครบรอบ 10 ปี ศูนย์ดำรงธรรม นำสุขสู่ปวงชน” โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน เป็นประธานเปิดงาน และมอบรางวัล Damrongdham Award ให้กับจังหวัด และประชาชนผู้ได้รับรางวัล โดยมี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาขุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย คณะผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พันตำรวจโท กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้แทนกระทรวง/หน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านร้องเรียนร้องทุกข์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

นายชำนาญวิทย์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย นับเนื่องถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 133 ปี ที่คนมหาดไทยในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ต่างร่วมกันในการบูรณาการสรรพกำลัง เพื่อทำให้ประชาชนคนไทย ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในทุกเรื่องสะท้อนผ่านบทบาทหน้าที่ในการดูแลและบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกับส่วนราชการและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทำให้ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุขโดยถ้วนหน้า

“ศูนย์ดำรงธรรม เป็นอีกหนึ่งส่วนงานที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ขับเคลื่อนภารกิจ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขพี่น้องประชาชน ทั้งในด้านของการบริการประชาชนแบบ One Stop Service ผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ การแก้ไขปัญหายาเสพติด และการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ตลอดจนเป็นหน่วยงานสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้คำปรึกษา/แนะนำ ประชาชนที่ต้องการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและให้บริการประชาชนในการลงทะเบียนหนี้นอกระบบจนประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา” นายชำนาญวิทย์ กล่าว

นายชำนาญวิทย์ กล่าวเน้นย้ำว่า ตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมานี้ “ศูนย์ดำรงธรรม คือ หน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ดูแลประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง” ซึ่งความท้าทายที่สำคัญในปีที่ 11 และทศวรรษหน้าคือ เราจะมีวิธีการอย่างไรในการรักษาจุดยืนที่ดีจากการสามารถเข้าถึงประชาชนได้ในเชิงรุก รวมทั้งเราจะต้องพัฒนาวิธีการทำงานเพื่อสร้างความสุขให้พี่น้องประชาชนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเป้าหมายสูงสุดของศูนย์ดำรงธรรม คือ การสร้างความสุข ลดความทุกข์ให้กับประชาชน ดังนั้น ถ้าหากประชาชนได้รับบริการจากศูนย์ดำรงธรรมแล้วมีความสุขกลับไป สิ่งนั้นหมายความว่าศูนย์ดำรงธรรมสามารถบรรลุเป้าหมายการทำงาน อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้เรายังต้องมีการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ ให้มีทักษะของการบริการ และการติดต่อสื่อสารประสานงานกับภาคีเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น จากการที่เราต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขทุกเรื่องของพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นเราต้องทำงานร่วมกับทุกองค์กรทุกภาคีเครือข่าย ต้องมีการประสานงาน ส่งต่อข้อมูลข่าวสาร เพื่อแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมรอบด้าน มากไปกว่านั้น เจ้าหน้าที่ของเราจะต้องมี Service Mind หรือ จิตบริการที่ดี ที่พร้อมรับฟังทุกปัญหาโดยไม่ตัดสิน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพื่อให้เข้าใจความต้องการและความเดือดร้อนของผู้มาร้องเรียนให้มากที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญ ในการขับเคลื่อนงานศูนย์ดำรงธรรมทศวรรษหน้า คือการที่เราจะต้องสร้างเจ้าหน้าที่ที่มีศักยภาพ เพื่อขับเคลื่อน ศูนย์ดำรงธรรม นำสุขสู่ปวงชน ได้อย่างยั่งยืน

สำหรับรางวัล Damrongdham Award และรางวัล People’s Emotional Award มีดังนี้

1. รางวัล Damrongdham Award จำนวน 5 รางวัล รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม ในผลงาน การบูรณาการความร่วมมือในการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์และเกิดเพลิงไหม้เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ในผลงาน การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณี สะพานข้ามคลองหลวงแพ่ง บริเวณหมู่ที่ 2 ตำบลคลองหลวงแพ่ง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา พังถล่มเสียหาย รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม ในผลงาน การแก้ไขปัญหาการฌาปนกิจสงเคราะห์ที่เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม รางวัลชมเชย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ในผลงาน คืนชายหาดเลพัง ให้ชาวภูเก็ต และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ในผลงาน คืนชีวิตสายน้ำท่าว้า (ท่าเสด็จโมเดล)

2. รางวัล People’s Emotional Award จำนวน 5 รางวัล รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ คุณพัชรี เกิดพรม จังหวัดสตูล ในผลงาน แสงสว่างจากศูนย์ดำรงธรรม รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 คุณอุไร เจริญทรง จังหวัดสมุทรสงคราม ในผลงาน การขยายเขตประชาส่วนภูมิภาคให้ประชาชน รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 นายปิยพงษ์ ทองนวล จังหวัดยะลา ในผลงาน เวลา รางวัลชมเชย คุณสุรเดช สมัยกุล จังหวัดสระแก้ว ในผลงาน การแก้ไขปัญหาประปาหมู่บ้านชำรุดเสียหาย และคุณพงษ์พิทักษ์ ธนพงศากร จังหวัด ในผลงาน หนังสั้นต่อต้านยาเสพติด.