กรณีคนร้าย 5 คน บุกเข้าไปก่อเหตุปล้นทรัพย์สินสองสามีภรรยาชาวจีน ในบ้านพัก หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งใน ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยบังคับให้ญาติของผู้เสียหายที่อยู่ประเทศจีนโอนเงินสกุลดิจิตอลเข้าบัญชีกลุ่มคนร้าย โดยคิดเป็นไทยประมาณ 70 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้นำเงินสด และทรัพย์สิน อีกกว่า 10 ล้านบาท ที่อยู่ในบ้านไปด้วย จากนั้นพากันขับรถโตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ของผู้เสียหายหลบหนีไป เหตุเกิดช่วงกลางดึกของวันพุธ (14 ส.ค.) ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ประสานด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ ให้ช่วยเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัยตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
4 โจรโม่งบุกปล้นบ้านหรู ‘นักธุรกิจจิวเวอร์รี่’ แดนมังกร รีดเงิน 70 ล้านบาท
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้รับการประสานงานจาก ตำรวจภูธร ภาค 1 ให้ช่วยสังเกตกลุ่มคนร้ายโดยมีรายงานว่าอาจจะหลบหนีมาทางชายแดนจังหวัดสระแก้ว จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก พ.ต.อ.ณภัทรพงศ์ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลังออกตรวจสอบบริเวณแนวชายแดนกระทั่งพบตัวผู้ต้องสงสัยจึงเข้าควบคุมตัวเป็นชาย อายุ 35 ปี สัญชาติเวียดนาม เมืองเงียอาน ประเทศเวียดนาม ขณะขับรถ โตโยต้า วีออส สีขาว ซึ่งเป็นคนขับรถพาคนร้ายทั้ง 5 คน ไปส่ง และรับ หลังก่อเหตุ
โดยทางตำรวจสระแก้ว ได้เพียงควบคุมตัวแจ้งข้อหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จึงนำตัวส่ง ตม.จว.สระแก้ว ดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนของคดีปล้นทรัพย์หมายจับยังไม่ออก จึงต้องส่งตัวให้ทาง ตำรวจภูธรภาค 1 นำตัวกลับไปสอบปากคำดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุอีกครั้ง สอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยชาวเวียดนาม ให้การอ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มคนร้ายให้ทำหน้าที่ขับรถไปส่งและไปรับ ตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานฐาน เพื่อขอยื่นให้ศาลจังหวัดปทุมธานีอนุมัติหมายจับ หลังจากศาลอนุมัติหมายจับก็จะนำตัวผู้ต้องสงสัยชาวเวียดนามรายนี้ มาสอบปากคำอีกครั้งที่ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อขยายผลตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุปล้นทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.