จากกรณีพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคภูมิใจไทย, พรรคพลังประชารัฐ, พรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคประชาชาติ, พรรคชาติพัฒนา, พรรคไทรวมพลัง, พรรคเสรีรวมไทย รวม 9 พรรค ร่วมกันแถลงข่าวเสนอชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 31 นั้น

โดยทางด้าน “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” ได้เผยความรู้สึกว่า “ก่อนอื่นดิฉันขอขอบพระคุณคณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ได้เสนอชื่อของดิฉันนะคะให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี” แน่นอนว่าต้องกราบขอบพระคุณพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่านสำหรับการสนับสนุนนี้ แน่นอนว่าดิฉันจะทำทุกอย่างอย่างเต็มความสามารถ แล้วก็รอดูผลโหวตกันพรุ่งนี้อีกทีให้เป็นทางการ

แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกคนที่ได้พูดกันเมื่อกี้ว่าเราทุกคนก็ชื่นชมในการทำงานของท่านนายกฯ เศรษฐา และเสียดายที่จะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างที่เราไม่ได้คาดฝันเอาไว้ แน่นอนว่าท่านนายกฯ เศรษฐา เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ดิฉันเคารพรัก นับถือมาตั้งแต่ก่อนท่านเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ท่านเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน เสียดายโอกาสนี้ แต่ว่าแน่นอนว่าประเทศต้องไปต่อ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล วันนี้เรามีความพร้อมที่จะผลักดันประเทศต่อ

“ดิฉันมั่นใจในพรรคเพื่อไทยมั่นใจในพรรครวมรัฐบาลทุกๆ ท่านที่จะช่วยกันนำพาประเทศของเรา ให้หลุดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ แน่นอนว่าเรามารวมตัวกันในวันนี้เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เห็นว่า เรามีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่นและมีความพร้อมเพรียงกันในการที่จะผลักดันประเทศไปต่อ วันนี้ขอขอบพระคุณทุกท่านมากๆ ที่มาร่วมกันรวมตัวกัน ตกลงกันทำเพื่อประเทศชาติร่วมกันต่อไป ขอบคุณค่ะ”

ส่วนเรื่องคำตัดสินของศาล ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ แล้วเมื่อวานเพิ่งกลับมาจากเซี่ยงไฮ้ เพิ่งทราบข่าวหลังจากคนอื่น เขาเตรียมการในพรรคกันและพูดคุยกับทางพรรคร่วม อันนี้เป็นเจตนามากกว่าที่ในปัจจุบันโฟกัสเรื่องนี้ “แน่นอนว่าได้ปรึกษาครอบครัวอยู่แล้ว ทุกคนคิดว่าเรามาถึงจุดที่จะต้องทำให้ประเทศชาติไปต่อเพราะฉะนั้นเราก็ยินดีและก็ตั้งใจ”

ส่วนเรื่องคุณหญิงอ้อนั้น ท่านเป็นคุณแม่ซึ่งคุณแม่ก็ห่วงลูกเป็นธรรมดาและดิฉันเองก็เป็นคุณแม่ก็เข้าใจในเรื่องนี้มากๆ ไม่ทราบว่าในอนาคตจะเลิกห่วงเมื่อไหร่ คิดว่าเรื่องนี้ทุกคนสามารถเข้าใจได้และเราพูดคุยกันและเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกันเสมอ ส่วนคุณทักษิณในฐานะของคุณพ่อที่มีประสบการณ์การเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน แน่นอนว่าให้คำปรึกษาแล้ว ซึ่งเราให้คำปรึกษากันทุกเรื่องอยู่แล้วไม่ได้ใกล้ชิดกว่าเดิมเพราะว่าตอนนี้ก็ใกล้มากแล้ว

ส่วนนโยบายของรัฐบาลที่สืบเนื่องจากคุณเศรษฐา จริงๆ แล้วต้องรับฟังความเห็นต่อไป วันนี้ยังไม่ได้มีการโหวตเลย ก็ขอให้ทุกการให้มีการพูดคุยก่อนเพื่อที่จะลงลึกรายละเอียดต่อไป “สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตขอให้มีดีเทลภายหลังจากนี้ดีกว่า ซึ่งตอนนี้ที่คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังบอกว่าต้องรับฟังความเห็นของทุกคนกันต่อนะคะ ยังไม่ได้ประชุมเลยค่ะ”..