เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่ ตลาดสดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของประชาชนหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติโดยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัย ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) กรณีแต่งตั้งให้ นายพิชิต ชื่นบาน นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ว่า นายพิชิต เคยถูกตัดสินว่าละเมิดอำนาจศาล และศาลมีคำสั่งให้จำคุก 6 เดือน กรณีนำถุงขนมใส่เงิน 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่พบว่าเสียดายหากโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ไปต่อ

นายสำเริง รอดทอง อายุ 46 ปี พ่อค้า กล่าวว่า มีความกังวลมาตั้งแต่ตั้งรัฐบาลแล้ว และมีมาเรื่อยๆ ซึ่งตามที่เห็นคือ เศรษฐกิจไม่มีการฟื้นตัว และโครงการนี้คงจะหายไปพร้อมกับนายเศรษฐา เพราะคนที่ประกาศโครงการคือนายเศรษฐา ทั้งนี้โดยส่วนตัวคิดว่าจะไม่ได้ตั้งแต่แรก

“เมื่อก่อนพรรคที่ได้อันดับหนึ่งพูดแล้วสามารถทำได้ แต่พรรคนี้พูดแล้วผ่านไป 1 ปียังไม่สามารถทำได้ตามที่พูด จึงไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับคนอื่นๆ ที่รากหญ้าก็คงจะรู้สึกเพราะคนเหล่านั้นมีความหวังกับเงินจำนวน 10,000 บาทเป็นอย่างมาก อยากจะฝากนายกฯ คนใหม่ว่าอยากให้พยุงเศรษฐกิจไทยให้ได้ดีกว่านี้ เพราะตอนนี้ฝืดเคืองกันมาก หากถามว่าโครงการนี้จะได้ไปต่อหรือไม่ หากคนของพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นนายกฯ เชื่อว่าไม่ได้ไปต่อเพราะคนที่ประกาศนโยบายนี้ไปแล้ว แต่ก็คิดว่าคงจะหาวิธีแก้เรื่องนี้เข้ามาแทนแต่ความหวังโครงการนี้ที่จะได้ไปต่อคงริบหรี่ เพราะขนาดตัวหลักยังทำไม่ได้ ตัวรองก็คงจะไม่ได้เช่นกัน” นายสำเริง กล่าว

ขณะที่ น.ส.ธัชชนก พิมพ์ทอง อายุ 52 ปี แม่ค้า กล่าวว่า พื้นฐานสังคมไทยต้องใช้เงินเป็นปัจจัยหลัก และการเมืองก็ไม่เสถียรภาพ เศรษฐกิจก็ฝืด การหนุนเรื่องเศรษฐกิจก็น้อยลงทำให้มีผลกระทบกับการดำรงชีวิตของคน ไม่มั่นใจว่าโครงการนี้จะได้ไปต่อหรือไม่เพราะไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก หากเป็นนายกฯ คนเดิมก็อำนาจไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด พอได้เงินมาก็ไม่รู้จะนำไปใช้ที่ไหน หากใช้ในร้านค้าใหญ่ร้านค้าย่อยอย่างเราๆ ก็คงกระทบ

“อยากฝากนายกฯ คนใหม่ขอให้มีความจริงใจ เวลาหาเสียงก็อยากให้ทำได้ อยากให้มองความเป็นไปได้เป็นสำคัญ ไม่ใช่นโยบายสวยหรูแต่ทำไม่ได้ และมองว่าหากนายกฯ คนใหม่มาจากเพื่อไทยก็ไม่มั่นใจว่าจะไปต่อได้หรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าแหล่งเงินมาจากไหน ขนาดจะเริ่มต้นโครงการก็ยังยาก ถ้าถามว่าเสียใจไหมก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับความจริง เพราะเราหาเช้ากินค่ำ” น.ส.ธัชชนก กล่าว