ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2527 ณ ริมโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาโดย นาย อดิศร จรณะจิตต์ (พ.ศ. 2495 – 2546) อดีตผู้บริหารระดับสูง โรงแรมโอเรียนเต็ล (ปัจจุบันคือ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ) และ บริษัทอิตัลไทยฯ (ปัจจุบันคือ กลุ่มบริษัทอิตัลไทย) ผู้เนรมิตรให้ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก (เดิมคือ ริเวอร์ ซิตี้) กลายมาเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกบนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ขึ้นชื่อในเรื่องชิ้นงานแอนทีคหายากจากทั่วทุกมุมโลก ส่งผลให้เหล่านักสะสมจากทั้งในและต่างประเทศได้เดินทางมายังศูนย์รวมของโบราณแห่งนี้เพื่อครอบครองชิ้นงานที่ตนตามหามานาน
ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2560 นาง ลินดา เชง ได้เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก โดยมีเป้าหมายคือการเปลี่ยนพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็น Art and Antique Center ผ่านการใช้พื้นที่บางส่วนสำหรับการจัดนิทรรศการศิลปะเพื่อให้ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ได้เป็นพื้นที่ในการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์และการแสดงความสามารถของเหล่าศิลปิน อีกทั้งยังกลายเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ทางศิลปะและที่พักผ่อนหย่อนใจทางสุนทรียภาพของคนรักศิลปะทุกท่าน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมศิลปะให้มีการเจริญเติบโตก้าวหน้าเท่านั้น แต่ยังมอบโอกาสให้เหล่าศิลปิน คนรักศิลปะ และนักสะสมได้ขับเคลื่อนวงการศิลปะไทยให้ไปสู่ระดับสากลอีกด้วย
แนวคิดด้านการนำนิทรรศการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เริ่มต้นด้วยการจัดแสดงผลงานใน “EXODUS” นิทรรศการภาพถ่ายโดยช่างภาพมือรางวัลอย่าง Patrick Brown ที่จัดขึ้นร่วมกับ UNICEF เพื่อเป็นอุทาหรณ์และสะท้อนให้เห็นปัญหาแห่งมนุษยชาติผ่านภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของค่ายผู้ลี้ภัยที่เมืองค็อกส์ บาซาร์ (Cox’s Bazar) ประเทศบังกลาเทศ ในห้อง RCB Photographers’ Gallery ที่ชั้น 2 ของ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญก้าวแรกของ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ทั้งในแง่ของการเปิดตัวแกลเลอรี่อย่างเป็นทางการและในการเป็นกระบอกเสียงให้กับประเด็นสังคมโลก ต่อมา ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ได้พัฒนาการจัดนิทรรศการเชิงปฏิสัมพันธ์ (Interactive) ร่วมกับองค์กรจากต่างประเทศมากมายผ่านการใช้เทคโนโลยีอย่าง Multimedia Projection เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้กับผู้ชม เริ่มต้นด้วยการจัดนิทรรศการร่วมกับพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติไต้หวัน (National Palace Museum of Taiwan) ซึ่งถือเป็นการจัดนิทรรศการมัลติมีเดียขนาดใหญ่ครั้งแรกขององค์กรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังได้เปิดตัวนิทรรศการ “Monet to Kandinsky”, “Van Gogh: Life and Art” และ “The Impressionists” ซึ่งล้วนเป็นนิทรรศการมัลติมีเดียที่ทำให้ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก กลายมาเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งรวบรวมนิทรรศการศิลปะหลากหลายแขนงแห่งแรกของประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจหลังจากการระบาดของ COVID-19 ในปี พ.ศ. 2563 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ยังเปิดตัวนิทรรศการ “Andy Warhol: Pop Art” ที่จัดแสดงผลงานต้นฉบับของศิลปินกว่าร้อยชิ้น ทำให้มีผู้เข้าชมนิทรรศการกว่า 20,000 คนอีกด้วย
ปัจจุบัน ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก กลายมาเป็นศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมแนวหน้าของประเทศไทยและเป็นจุดรวมระบบนิเวศทางศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ และประวัติศาสตร์ ทั้งเป็นที่ตั้งของแกลเลอรี่อิสระมากมาย เป็นพื้นที่ให้แก่ศิลปินในพำนัก ไปจนถึงการจัดนิทรรศการหมุนเวียนอันน่าตื่นตาตื่นใจจากศิลปินทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังคงสืบทอดจุดประสงค์แรกเริ่มด้วยการเป็นจุดรวมของชิ้นงานแอนทีคจากทั่วทุกมุมโลกซึ่งถูกนำเสนอโดยเหล่านักสะสมเจ้าของร้านแอนทีคและชิ้นงานศิลปะมากมายใน ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก และนอกจากนี้ ยังมีการจัดประมูลโดย RCB Auctions ซึ่งเปิดโอกาสให้เหล่านักสะสม ทั้งผู้ที่ชำนาญการและนักสะสมมือใหม่ ได้มาตามหาชิ้นส่วนของสมบัติหายากที่หายสาบสูญไปในกาลเวลาอีกด้วย
และในวาระครบรอบ 40 ปีนี้ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ก็ขอเฉลิมฉลองความสำเร็จด้วยการจัดแสดงผลงานศิลปะ ชิ้นงานแอนทีค และนิทรรศการอันน่าตื่นเต้นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2567 นี้ ให้ทุกท่านได้มีโอกาสเรียนรู้ความเป็นมาและซึมซับมรดกอันล้ำค่าที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นของการก่อตั้ง ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ศูนย์รวมศิลปะและวัฒนธรรมแนวหน้าของประเทศไทย
สามารถรับชมคลิป VDO ตัวเต็มได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=I6r4Kt6AMnE
#RCB40thAnniversary
#RiverCityContemporary
#RiverCityBangkok