เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายคมสันติ์ สุขสมดาว นายกเทศมนตรีตำบลท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เข้าพบ พ.ต.อ.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี และ พ.ต.ท.วัฒนา แก้วเจริญ รอง ผกก.(สอบสวน) เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมาส ได้รับแจ้งว่ามีอักษรของป้ายคำว่า ท่าระหัด และ เรารักท่าระหัด ซึ่งติดอยู่บนสะพานโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ บริเวณหมู่ 3 ทั้งสองด้าน มีอักษร ไม้หันอากาศตรงคำว่า หัด สูญหายไป เหลือเพียงคำว่า ท่าระหด และป้ายคำว่า เรารักท่าระหัด มีไม้หันอากาศตรงคำ รัก กับ หัด สูญหายไป เหลือเพียงคำว่า เรารกท่าระหด ซึ่งการกระทำดังกล่าว อาจเป็นการกระทำโดยเจตนาหรือกลั่นแกล้ง ทำให้ความหมายเปลี่ยนแปลงไป

นายคมสันติ์ กล่าวว่าโครงการนี้กว่าจะได้มาจากงบ 80ล้านบาทโดนตัดเหลือ69ล้านบาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง เราตั้งใจทำให้บ้านเมืองและพี่น้องชาวสุพรรณบุรี ได้มีสถานที่พักผ่อน อกกกำลังกาย ทุกคนแต่ไม่ทันไรกับมีผู้ไม่หวังดีมาทำลาย สะพานดังกล่าวที่ป้ายมีเรารักท่าระหัด ตามแบบของโยธา ก็จะดูธรรมดา ตนจึงคิดว่าต่อไปจะจุดไฮไลต์สำคัญที่จะมีคนมาภาพมากขึ้น เพราะสถานที่ร่มรื่นเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกายยามเช้าและยามเย็น จึงได้งบประมาณส่วนตัว มาทำป้ายเรารักท่าระหัด และเพื่อให้รู้ว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านี้เป็นของส่วนรวม ต้องช่วยดูแลรักษา แต่กลับมีผู้ทำลายด้วยความคึกคะนอง และตัวอักษรที่หายเป็นไม้หันอากาศทั้งหมด ทำให้ข้อความเปลี่ยนไป จึงว่าเป็นความคึกคะนองมากกว่า ตนคิดว่าไม่เป็นผลดี เพราะกระทบเทือนจิตใจผู้ตั้งใจทำและชาวตำบลท่าระหัด ขอฝากผู้ที่คึกคะนองกลับไปนึกคิดใหม่ว่าควรทำแบบนี้หรือไม่

สำหรับโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวขณะนี้เสร็จไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และตำบลท่าระหัดมีผู้สูงอายุมากขึ้นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ และเราต้องการให้ผู้สูงอายุเหล่านี้มีสุขภาพที่แข็งแรง จึงต้องการให้ตรงนี้เป็นจุดพักผ่อน ออกกำลังกายของผู้สูงอายุและบุคคลทั่วไปและเป็นปอดของตำบลท่าระหัด และจะจัดงานลอยกระทงในปีนี้ด้วย รวมทั้งในอนาคตจะทำถนนคนเดิน รวมทั้งแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของสุพรรณบุรี และยังทำเป็นถนนสงกรานต์โดยถอดแบบมาจากถนนข้าวสารโดยให้ประชาชนเดินเล่น ซึ่งจะมีความปลอดภัยและสนุกสนานมากขึ้น ที่สำคัญยังเป็นแหล่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับจังหวัดสุพรรณบุรีอีกด้วย จึงขอฝากพวกวันรุ่นคึกคะนองทั้งหลายให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว นายคมสันติ์ กล่าว