จากกรณีข่าวที่ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมปรึกษาหารือและวินิจฉัยคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 40 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5 ) หรือไม่จากกรณีนายเศรษฐาได้นำความกราบบังคมทูล เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกา มีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยมีมติ 5 ต่อ 4 เศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

โดยวันนี้ ทีมเดลินิวส์ออนไลน์ จะพาทุกคนย้อนดูผลงานและเส้นทางชีวิต เศรษฐา ทวีสิน สุดยอดนักธุรกิจเบอร์ต้นของประเทศไทย ก่อนพลิกผันลงสนามการเมืองจนขึ้นแท่นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ก่อนมีคำวินิจฉัยมติ 5 ต่อ 4 คดีการแต่งตั้งนายพิชิต เป็นการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐาน

เศรษฐา ทวีสิน เกิด 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 ปัจจุบันอายุ 62 ปี ชื่อเล่น นิด เป็นนักธุรกิจและนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 30 อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายหลังการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เศรษฐาในฐานะบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี (แคนดิเดต) ของพรรคเพื่อไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถัดจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สำเร็จการศึกษา
– ประถมศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร
– ปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์
– ปริญญาโท สาขาการเงิน มหาวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาแคลร์มอนต์ (Claremont Graduate University) ในสหรัฐ

เส้นทางชีวิต
เติบโตในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย เป็นบุตรเพียงคนเดียวของ ร้อยเอกอำนวย ทวีสิน และชดช้อย ทวีสิน (สกุลเดิม จูตระกูล) โดยบิดาเสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุ 3 ขวบ เศรษฐามีศักดิ์เป็นหลานอาของ คุณหญิงพิมพา สุนทรางกูร ภริยาของ พลเอกประจวบ สุนทรางกูร อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนสายสกุลทางมารดาเกี่ยวข้องกับตระกูลนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน 5 ตระกูล ได้แก่ ยิบอินซอย, จักกะพาก, จูตระกูล, ล่ำซำ และบุรณศิริ

เขามีส่วนสูง 192 เซนติเมตร เป็นผู้นำรัฐบาลในกลุ่มอาเซียนที่มีความสูงมากที่สุด และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเอดี รามา นายกรัฐมนตรีแอลเบเนีย และอาเล็กซานดาร์ วูชิช ประธานาธิบดีเซอร์เบีย สมรสกับแพทย์หญิงพักตร์พิไล (สกุลเดิม ปลัดรักษา) มีบุตรด้วยกัน 3 คน และเป็นหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล นอกจากนี้เขายังชอบสะสมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ และเคยมีการจัดแสดงคอลเลกชั่นดังกล่าวต่อสาธารณะในปี พ.ศ. 2565

การทำงาน
หลังจากสำเร็จการศึกษาใน พ.ศ. 2529 เศรษฐาเดินทางกลับมาทำงานที่ประเทศไทย ในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (Procter & Gamble) เป็นระยะเวลา 4 ปี ต่อมาเขาร่วมกับ อภิชาติ จูตระกูล และวันจักร์ บุรณศิริ ซึ่งทั้งสามเป็นลูกพี่ลูกน้องกันผ่านสายสกุลฝั่งมารดา ก่อตั้งแสนสิริใน พ.ศ. 2531 ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยภาระหน้าที่ส่วนใหญ่ของเขาประกอบด้วยการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์, การบริหาร และการขับเคลื่อนธุรกิจที่กำลังเติบโตตามแผนของคณะกรรมการบริหารบริษัท

ใน พ.ศ. 2563 เขาซื้อที่ดินที่แพงที่สุด ราคา 3.9 ล้านบาทต่อตารางวา บนถนนสารสินติดกับสวนลุมพินี ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งอาคารสำนักงานของ บมจ.ที ไลฟ์ ประกันชีวิต ด้วยการบริหารจัดการของเขา แสนสิริยังคงสามารถเติบโตได้แม้จะอยู่ในช่วงการระบาดทั่วของโควิด-19 และก่อนได้รับการเสนอในบัญชีรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย สำหรับการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 เขาได้โอนหุ้นทั้งหมดในแสนสิริ คิดเป็นสัดส่วน 4.4% ของทุนจดทะเบียนบริษัทในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2566 ให้กับชนัญดา ทวีสิน ผู้เป็นบุตรสาวของเขา

ชีวิตพลิกผันลงเล่นการเมือง
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวิกฤติการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556-2557 เขาได้ต่อต้านการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. จนกระทั่งภายหลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติซึ่งนำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกให้เข้ารายงานตัวที่หอประชุมกองทัพบกเทเวศร์

หลังจากนั้นเมื่อเกิดการระบาดทั่วของโควิด-19 และการประท้วงซึ่งนำโดยกลุ่มเยาวชน เศรษฐาได้วิจารณ์การบริหารสถานการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 พรรคเพื่อไทยได้แต่งตั้งให้เศรษฐาเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยมีหน้าที่ให้คำปรึกษาหรือดำเนินการตามที่ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมอบหมาย

ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2566 ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสามบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี (แคนดิเดต) ของพรรคเพื่อไทย เขามักได้รับความนิยมตามหลังแพทองธารในผลสำรวจบุคคลที่สนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ กล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกที่จังหวัดพิจิตรต้นเดือนเมษายน เขาประกาศว่าหากตนเป็นนายกรัฐมนตรี จะดำเนินโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับประชาชนสัญชาติไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน กลางเดือนเดียวกันเขากล่าว ที่จังหวัดเลยว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่มีส่วนร่วมในการรัฐประหาร พ.ศ. 2557

อย่างไรก็ตามหลังจากมีคำวินิจฉัยมีมติ 5 ต่อ 4 เศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเพียง 358 วัน หรือ 11 เดือน 23 วัน อย่างไรก็ตามบนโลกออนไลน์ต่างพากันแสดงความคิดเห็นกันล้นหลาม จนล่าสุดกลายเป็นแฮชแท็กประเด็นร้อนขึ้นเทรนด์อันดับ 1 อีกด้วย…

ขอบคุณข้อมูล : วิกิพีเดีย