สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงซันติอาโก ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ว่าสหภาพแรงงาน ในประเทศซึ่งเป็นผู้ทำเหมืองทองแดงขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หยุดงานประท้วงอย่างไม่มีกำหนด เพื่อเรียกร้องการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 1 ของผู้ถือหุ้น ให้กับคนงานในเหมืองเอสคอนดิโด

แถลงการณ์ของสหภาพแรงงานระบุว่า การหยุดงานประท้วงทางกฎหมายได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากข้อเรียกร้องต่อบริษัทบีเอชพี ของออสเตรเลีย ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ซึ่งรวมไปถึงการลดจำนวนวันทำงาน, เพิ่มโบนัส และค่าตอบแทนสำหรับจำนวนปีที่ทำงานทั้งหมด

สื่อชิลีระบุว่า ผู้บริหารของบริษัทเสนอโบนัสครั้งเดียว ให้กับคนงานในสหภาพแรงงานจำนวน 2,400 คน ซึ่งเป็นเงินเกือบ 29,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านบาท) แต่ต่ำกว่าจำนวนเงินที่เรียกร้อง ซึ่งอยู่ที่ 36,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 ล้านบาท)

ปัจจุบัน ชิลีเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีปริมาณการผลิตต่อปีมากกว่า 5 ล้านเมตริกตัน หรือเกือบ 1 ใน 4 ของปริมาณการผลิตทั่วโลก

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 คนงานในเหมืองทองแดงแห่งนี้ เคยหยุดงานประท้วงนานถึง 44 วัน ซึ่งถือเป็นการหยุดงานยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การทำเหมืองทองแดงของชิลี ส่งผลให้บีเอชพีสูญเสียรายได้ 740 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 25,901 ล้านบาท) และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลดลงร้อยละ 1.3 เนื่องจากเหมืองเอสคอนดิโด ผลิตทองแดงได้เกือบ 1.1 ล้านตันต่อปี

แถลงการณ์ของบีเอชพีแสดงความเสียใจต่อการตัดสินของคนงาน โดยระบุว่า พวกเขาได้พยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดทำข้อเสนอที่ปรับปรุงสัญญาการจ้างงานปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญญาจ้างดีที่สุดในอุตสาหกรรมเหมือง ทั้งนี้ พวกเขากล่าวว่า ได้เริ่มใช้แผนการฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการประท้วงหยุดงาน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับแผนดังกล่าว.

เครดิตภาพ : AFP