เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายณรงค์พัชญ์ นาคทรัพย์ นายอำเภอขุนยวม พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 36 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าพื้นที่อุทกภัยบ้านแม่โกปี่ แต่รถยนต์ยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ บางจุดต้องใช้เส้นทางเดินเท้า ประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่ง นายอำเภอขุนยวม ต้องเดินทางเท้าเข้าพื้นที่ไปอีก 3 กิโลเมตร และเดินทางต่อด้วยรถจักรยานยนต์ จนเดินทางไปถึงบ้านผู้ประสบภัยบ้านแม่โกปี่ พบปะให้กำลังใจราษฎรในพื้นที่

ในพื้นที่สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลงเหลือความเสียหายบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำป่าพัดเศษดินเศษไม้ทับถมเป็นบริเวณกว้าง ราษฎรบางส่วนที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย หรือยังหวาดกลัวฝนกระหน่ำซ้ำอีกระลอก ได้พากันไปพักอาศัยอยู่บริเวณโรงเรียนแม่โกปี่ หรือบ้านญาติพี่น้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการเปิดเส้นทางเพื่อเข้าพื้นที่ช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัย ทั้งนี้ ได้ประสานเครื่องจักร อบจ.แม่ฮ่องสอน และ อบต.แม่ยวมน้อย คาดว่า ใช้เวลา 2 วัน แต่บางจุดสะพานขาดชำรุด และบางจุดข้ามลำน้ำกว้าง ประมาณ 40 เมตร ก็ต้องพิจารณาว่าจุดที่เป็นปัญหา เครื่องจักรจะแก้ไขอย่างไร

ด้าน นายอำเภอขุนยวม กล่าวว่า สำหรับแผนความช่วยเหลือ จะเร่งดำเนินการเปิดเส้นทางให้เข้าถึงหมู่บ้านจากบ้านแม่ลาก๊ะ ถึง บ้านแม่โกปี่ ระยะทางอีกประมาณ 10 กม. ทั้งนี้ อำเภอขุนยวมเตรียมระดมสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ส่งต่อในการช่วยเหลือแล้ว นอกจากนั้นยังได้ขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนในการเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่หมู่บ้าน หมู่ที่ 2–หมู่ที่ 8 ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม ที่มีสะพานเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านชำรุด และมีดินสไลด์ทับเส้นทางหลายแห่งทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรเป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร

สรุป พื้นที่อุทกภัยในพื้นที่ อ.ขุนยวม รวม 3 ตำบล 17 หมู่บ้าน เกิดอุทกภัยในพื้นที่ หมู่ที่ 1–8 ต.แม่ยวมน้อย และ หมู่ที่ 1-4, หมู่ที่ 6-9 ต.เมืองปน, หมู่ที่ 1 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,892 คน 1,623 ครัวเรือน บาดเจ็บ 1 คน เสียชีวิต 1 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 15 หลังคาเรือน พืชไร่ 168 ไร่ นา 150 ไร่ สัตว์เลี้ยงโค 8 ตัว ถนน 20 แห่ง สะพาน 5 แห่ง และฝาย รวม 30 แห่ง