เมื่อวันที่ 13 ส.ค. นายวัฒน์ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี เดินทางมาพบนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากซื้อบ้านพร้อมที่ดิน ที่ จ.สุพรรณบุรี จากกรมบังคับคดีตั้งแต่ปี 65 ถึงแม้จะมีคำสั่งศาลให้ออกจากบ้านไปแล้วแต่จนปัจจุบันก็ยังไม่สามารถเข้าอยู่ได้ เพราะถูกลูกชายเจ้าของบ้านเก่าซึ่งเป็นข้าราชการท้องถิ่นใน จ.นครปฐม ทักแชตโพสต์รูปปืนข่มขู่ ซ้ำยังเรียกเงิน 2 ล้านบาท หากต้องการเข้าอยู่ จนต้องเข้าแจ้งความและร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรม จ.นครปฐม แต่เรื่องไม่คืบหน้า

นายวัฒน์ เล่าว่า ได้เข้าไปประมูลทรัพย์บ้านหลังดังกล่าวจากกรมบังคับคดี จ.สุพรรณบุรี ในราคา 920,000 บาทมาตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. 65 จากนั้นวันเดียวกันมีลูกชายเจ้าของบ้านซึ่งเป็นนิติกรชำนาญการ หน่วยงานราชการ ของ อบต.แห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม โทรฯ มาบอกว่าจะขอซื้อที่ดินคืน วันต่อมาเจ้าของบ้านโทรฯ มาขอความช่วยเหลือว่าบ้านถูกยึดไม่มีที่พักอาศัยและขออยู่ไปก่อน ตนก็ไม่ได้ขัดข้อง ยอมให้อยู่โดยตกลงกันว่าจะให้อยู่เพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่ผ่านไป 6 เดือนก็ยังไม่ยอมย้ายออก

นายวัฒน์ เล่าอีกว่า ต่อมาได้ไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการบังคับคดีให้ช่วยเหลือ กระทั่งศาลมีหมายขับไล่ออก เพื่อออกหมายขับไล่จนมีการขึ้นศาล 5 ครั้ง ซึ่งทางลูกเจ้าของบ้านได้มีการข่มขู่ฆ่าตนทางเฟซบุ๊ก โดยโพสต์รูปอาวุธปืน ว่า หากเข้าไปที่ศาลจะไปดักยิงตนและครอบครัว จนทําให้เกิดความกลัว แต่ก็ต้องไปเพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องไปรายงานต่อศาล ซึ่งครั้งแรกศาลให้เจรจากันและขอให้เจ้าของบ้านอยู่ต่ออีก 3 เดือน และต้องย้ายออกวันที่ 2 ก.พ. 66 แต่เมื่อไปตรวจบ้านก็ยังไม่ย้ายออกอีก กระทั่งมีการออกหมายจับ ทางคู่กรณีกลัวติดคุก ทางแม่และครอบครัวคู่กรณีได้ขอให้ศาลโทรฯ หาตนเพื่อเจรจาและบอกจะย้ายออกจากบ้าน ซึ่งเห็นใจและให้โอกาส จนสุดท้ายมีการส่งมอบบ้านตามกฎหมายแต่ด้วยเหตุการณ์ที่โดนข่มขู่ฆ่าและคุกคามมาตลอด 2 ปี จนไม่กล้าที่จะย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังดังกล่าว

กัน จอมพลัง ระบุว่า หลังจากนี้จะเดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมเพื่อเข้าพูดคุยในรายละเอียด ในส่วนของทางคดีทราบว่าบางคดีอยู่ในขั้นตอนของศาล ซึ่งก็ต้องปล่อยไปตามกระบวนการของศาล และในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) อาจต้องเดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อติดตามเรื่องนี้อีกครั้ง