เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.จรรยาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ทำธุรกิจครอบครัว พร้อมผู้เสียหายประมาณ 10 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์หลังถูกบุคคลแฝงตัวสมัครเข้าเรียนหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง หลอกลวงขอยืมเงินและชักชวนให้เพื่อนสมาชิกที่เรียนด้วยกันลงทุน มีผู้เสียหายกว่า 30 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

น.ส.จรรยาพร เปิดเผยว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้แฝงตัวเข้ามาสมัครเรียนตามคอร์สอบรมผู้บริหารระดับสูง เพื่อชักชวนและยืมเงินจากสมาชิกในคอร์สที่ส่วนมากจะเป็นกลุ่มผู้มีฐานะ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทจัดส่งพนักงานเชียร์ขายสินค้าหน้าร้านหรืออีเวนต์ (พนักงาน PC) ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาพยายามไปขายงานให้กับบริษัทชื่อดังของประเทศไทย และได้นำคอนแทคของแต่ละบริษัทชื่อดังมาอ้างจนทำให้หลายคนหลงเชื่อ โดยตนโดนในลักษณะผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาตีสนิทผ่านน้องสาว เริ่มแรกในปลายปี 2561 ผู้ถูกกล่าวหาได้ยืมเงินไป 3 แสนบาท เพื่อไปลงทุนกับบริษัทดังกล่าว และอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3%

น.ส.จรรยาพร กล่าวอีกว่า จากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์ ทางผู้ถูกกล่าวหาก็นำเงิน 3 แสนบาทมาคืนพร้อมกับเงินตอบแทนอีก 3% จริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนทำการยืมเงินไปลงทุนเพิ่มขึ้นอีกหลายครั้ง ซึ่งก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ทางผู้ถูกกล่าวหาได้ติดเงินตนอยู่ประมาณ 20 ล้านบาท แต่หลังจากที่มีการเกิดโควิด-19 ทางผู้ถูกกล่าวหาก็เริ่มคืนเงินล่าช้า และในปี 2566 ได้ให้ตนโอนเงินให้เพิ่มอีก 9 ล้านบาท อ้างว่าหากไม่โอนเงินมาให้เงินที่อยู่กับผู้ถูกกล่าวหาจะหายไป ตนจึงได้โอนไปเพิ่ม หลังจากนั้นก็เลื่อนการจ่ายเงินไปเรื่อย และอ้างว่าบริษัทคู่ค้าที่มีคอนแทคจ่ายเงินล่าช้า แต่เมื่อตนติดต่อไปทางบริษัทคู่ค้ากลับพบว่าไม่มีการติดเงินจริง จึงทราบแล้วว่าตนถูกหลอก โดยรวมความเสียหายของตนอยู่ที่ 38 ล้านบาท

น.ส.จรรยาพร กล่าวว่า จากนั้นตนจึงได้ไปจ้างบริษัทนักสืบเอกชนให้ไปตามทวงหนี้ และพบว่ามีผู้เสียหายได้ไปจ้างบริษัทเอกชนที่ตามทวงหนี้กับลูกหนี้รายนี้เช่นเดียวกัน จึงพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 30 รายที่โดนในลักษณะเดียวกัน และยังทราบมาว่ามีผู้เสียหายซึ่งเป็นแพทย์ถูกหลอกยืมเงินสูญเงินไปกว่า 90 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายอื่นๆ ถูกหลอกยืมเงินในลักษณะเดียวกัน สูญเงินไปคนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท นอกจากนี้ตนยังทราบว่ามีการโกงเงินประกันสังคมและเงิน กยศ.เด็กที่ทำงานเป็น PC ในบริษัท โดยมีการเก็บเงินดังกล่าวทุกเดือนไปจำนวนกว่า 100 คน แต่ไม่มีการจ่ายให้กับประกันสังคมและเงิน กยศ.ให้กับเด็ก ตนมีหลักฐานและมีการยืนยันจากเด็กเหล่านั้น

ทั้งนี้มีคนไปแจ้งความไว้บ้างแล้วที่ สน.วังทองหลาง วันนี้ตนพร้อมผู้เสียหายอีกหลายรายจึงเดินทางมาแจ้งความกับผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยา และยังมีผู้ร่วมขบวนการคือน้องสาว แต่ตอนนี้แจ้งความไว้แค่กับสามีภรรยาเท่านั้น เบื้องต้นจะให้ดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชน และกู้เงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน