ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางสายในเงา เป็นพื้นที่หนึ่งของ ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่ประสบปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการติดต่อสื่อสาร และการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ทำให้ประชาชนขาดการรับรู้ข่าวสาร รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานภายนอก ทำให้เสียโอกาสต่างๆ เช่น ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านเศรษฐกิจ ต่อมาได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์มายังโทรคมนาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตั้งระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตในเขตพื้นที่ดังกล่าว เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาด้านการสื่อสาร และพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงจังหวัดรอยต่อ (เชียงใหม่-ตาก-แม่ฮ่องสอน
ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง นายกรเอก แสงแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มขายและปฏิบัติการลูกค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (เอ็นที) ได้มีโอกาสลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการติดตั้งระบบสื่อสารอินเตอร์เน็ต ในพื้นที่เป้าหมายในเงา และ ได้มีโอกาสพบปะเวทีเสวนาสรุปความร่วมมือในการพัฒนา ร่วมกับทางนายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์. รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายยอดชาย พรพงไพร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวด.นายธวัชชัย ใจแสน. ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวด นายจักกรินทร์ ไวยเขตกรณ์ โทรคมนาคมแม่ฮ่องสอน นายสยาม เรืองสุกใส ผู้อำนวยการโรงเรียนปางมะผ้าพิทยาสรรพ์ (อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนล่องแพ) ผู้บุกเบิกขับเคลื่อนกิจกรรมความร่วมมือการแก้ไขโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกล ตัวแทนสถานศึกษาในพื้นที่ในเงา อาทิ โรงเรียนล่องแพวิทยา รพ.สต.อุมโล๊ะ ผู้นำชุมชน ตลอดจนผู้ที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนจนก่อเกิดความสำเร็จเป็นถนนสายดิติทัลขึ้น ภายใต้ข้อจำกัด จนสามารถเปิดถนนสายดิจิทัล อินเทอร์เน็ตผ่านโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกให้บริการแก่ชุมชน หมู่บ้าน โบสถ์ โรงเรียน รพ.สต. สุขศาสา และ วัด ในพื้นที่นำร่อง 739 ครัวเรือน 2,384 คน ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ต 164 เลขหมาย ณ ศูนย์ประสานางานเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ในเงาอย่างยั่งยืน
นายจักกรินทร์ ไวยเขตกรณ์ โทรคมนาคมแม่ฮ่องสอน กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการสื่อสาร และสอดรับกับแผนพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน รูปแบบถนนดิจิทัล ให้บริการประชาชน และหน่วยงานของรัฐ ในพื้นที่ดังกล่าว โทรคมนาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีการประชุมหารือแนวทางร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินงานขยายระบบสื่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต การดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 65 ถึง ปี 67 ได้มีการดำเนินงานพร้อมให้บริการแล้ว จำนวน 5 เฟส ประกอบไปด้วย เฟสที่ 1 หย่อมบ้านแม่เงา หมู่ที่ 8 – บ้านแม่เลาะ หมู่ที่ 1 บ้านแม่หลุย หมู่ที่ 4 เฟสที่ 2 บ้านแม่หลุย หมู่ที่ 4 – หย่อมบ้านสบแม่แพ หมู่ที่ 9 – บ้านนาดอย หมู่ที่ 9 เฟสที่ 3 บ้านนาดอย หมู่ที่ 9 – บ้านอุมโล๊ะ หมู่ที่ 5 – บ้านสบโขง หมู่ที่ 10 เฟสที่ 4 บ้านอุมโล๊ะเหนือ (กอบีคี) หมู่ที่ 12 เฟสที่ 5 บ้านอิวีโจ หมู่ที่ 8 ต.แม่วะหลวง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และ ในเฟสที่ 6 จะดำเนินการต่อไปยังพื้นที่รอยต่อ บ้านเมโลดี จ.เชียงใหม่ โดยอาศัยการพาดผ่านสายอินเตอร์เนตไฟเบอร์ออฟจติคความเร็วสูง โดยอาศัยการพาดสายจากต้นไม้ต้นหนึ่ง ไปยังอีกต้นหนึ่ง ตลอดระยะทาง 52 กิโลเมตร สู่หมู่บ้านในเงา และ รอยต่อ หมู่บ้าน 3 จังหวัด แม่ฮ่องสอน – เชียงใหม่ และ จ.ตาก นายกรเอก แสงแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มขายและปฏิบัติการลูกค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (เอ็นที) กล่าวว่า ทาง โทรคมนาคม ตระหนักถึงความสำคัญของการให้บริการโทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อสังคมอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะการส่งเสริมคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ การเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ผ่านโลกดิจิทัล เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยให้การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนชายชอบในถิ่นทุรกันดาร
ด้าน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ความสำเร็จในการพัฒนาถนนสายดิจิทัลสู่พื้นที่ในเงา ถือเป็นโมเดลของหลายๆ พื้นที่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่สำเร็จได้จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ภายใต้ข้อจำกัดหลายๆด้าน แต่ก็ยังสามารถขับเคลื่อนถนนสายดิจิทัลได้สำเร็จ ถือเป็นการเปิดเส้นทางสร้างคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสทางการศึกษา สร้างโอกาสทางการแพทย์ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับคนในชุมชนในทุกๆมิติผ่านการท่องโลกอินเตอร์เนต
