สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ว่า ประธานาธิบดีมาห์ซูด เปเซชเคียน ผู้นำอิหร่าน กล่าวถึงสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ว่าอิหร่าน “มีสิทธิชอบธรรมที่จะตอบโต้ตามกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ” ต่อความก้าวร้าวทุกรูปแบบ และอิหร่านยึดมั่นการดำเนินการตามแนวทางการทูต เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งและข้อพิพาท แต่เปเซชเคียนกล่าวว่า รัฐบาลเตหะรานจะไม่มีทางเป็นฝ่ายอ่อนข้อ ให้กับแรงกดดันจากภายนอก


ขณะที่สหรัฐ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เรียกร้องให้อิหร่าน “ยุติการข่มขู่ทางทหาร” กับอิสราเอล เพื่อไม่ให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคต้องตึงเครียดไปมากกว่าที่เป็นอยู่


อนึ่ง รัฐบาลวอชิงตันให้ความเห็นด้วยว่า อิหร่านและบรรดาพันธมิตร “เตรียมจัดการโจมตีหลายระลอก” ต่ออิสราเอล “เร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้” ด้านฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลประเมินสถานการณ์แบบเดียวกัน


ทั้งนี้ การเสียชีวิตของนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส จากการลอบสังหารในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว จุดชนวนความตึงเครียดรอบใหม่ในภูมิภาค

จนถึงตอนนี้ อิสราเอลยังคงปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของฮานิเยห์ แต่กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลมีความพร้อมทั้งเชิงรุกและเชิงรับ พร้อมทั้งยืนยันจะตอบโต้อย่างแน่นอน หากมีการโจมตีเกิดขึ้น.

เครดิตภาพ : AFP