สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ว่านายเวดันต์ ปาเทล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า “ความพยายามครั้งล่าสุด” ในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ “ไม่ใช่เรื่องใหม่” สำหรับอิหร่าน ซึ่งพยายามบ่อนทำลายกลไกประชาธิปไตยของสหรัฐ “อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายปีแล้ว”


โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวด้วยว่า รัฐบาลวอชิงตันเคยแสดงความวิตกกังวลมาแล้วหลายครั้ง เกี่ยวกับกิจกรรมทางไซเบอร์ของอิหร่าน และสหรัฐมี “เครื่องมือ” เพื่อใช้จัดการกับรัฐบาลเตหะรานในเรื่องนี้ และไม่ลังเลที่จะใช้สิ่งเหล่านั้น


ขณะที่นายจอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) กำลังจับตาและวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด


ทั้งนี้ ทีมงานหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และตัวแทนพรรครีพับลิกัน ออกแถลงการณ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าระบบคอมพิวเตอร์สำหรับแคมเปญหาเสียง ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ “โดยกองกำลังต่างชาติ” ที่มีเจตนาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และสร้างความวุ่นวายให้กับกระบวนการถ่ายโอนอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย


ทีมงานของทรัมป์อ้างข้อมูลจากไมโครซอฟต์ ว่า “แฮกเกอร์ของอิหร่าน” ส่งฟิชชิงอีเมล หรืออีเมลหลอกลวง ไปยังบัญชีของเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน ในแคมเปญหาเสียง เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และทีมงานของนายเจ.ดี. แวนซ์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์แบบเดียวกัน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 แฮกเกอร์โจมตีระบบอีเมลของคณะกรรมการแห่งชาติพรรคเดโมแครต ซึ่งส่งนางฮิลลารี คลินตัน เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ด้านหลายฝ่ายกล่าวหาว่า รัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้อง และทรัมป์ “ส่งเสริม” ให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ดังกล่าว.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES