จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่บ้านคลองช้าง ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย และผู้ก่อเหตุรุนแรง เสียชีวิต 3 ราย ในห้วงวันที่ 27 กรกฏาคม – 1 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น และได้ปรากฏข้อมูลผ่านสื่อโซเขียลออนไลน์ว่า มีชาวบ้านร้องเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว

พันเอก เอกวริทธิ์  ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เมื่อ 6 สิงหาคม 2567 เวลา 13.30 น. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า  โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอโคกโพธิ์ จัดประชุมสภาสันติสุขตำบล วาระพิเศษ ณ องค์การบริหารส่วนตำบล นาเกตุ โดยมี นายอับดุลการีม ยีดำ นายอำเภอโคกโพธิ์ เป็นประธานฯ โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและความจำเป็น ในการบังคับใช้กฏหมายในพื้นที่ ห้วงเวลาดังกล่าว และภายหลังจากการเข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่สิ้นสุด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นทันที 

ในส่วนของศูนย์ปฏิบัติการอำเภอโคกโพธิ์ ได้ชี้แจงหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว โดยภายหลังเกิดเหตุการณ์ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอโคกโพธิ์ ได้มีการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา (เฉพาะกรณี) ณ ที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการติดต่อเพื่อขอรับการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนการช่วยเหลือเยียวยา ดังนี้ 1. ต้องมีบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน 2. ต้องเป็นเจ้าของที่ดินหรือมีหลักฐานการครอบครองที่ดิน 3. กรณีเป็นผู้เช่าที่ดิน ต้องมีสัญญาเช่าที่ดิน และ 4. กรณีสัตว์เลี้ยง ต้องมีหลักฐานแสดงการเป็นเจ้าของ

ปัจจุบันมีผู้ยื่นหลักฐาน เพื่อขอรับการช่วยเหลือเยียวยาแล้ว จำนวน 14 ราย ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการอำเภอโคกโพธิ์ จะประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในห้วงสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาความถูกต้องของหลักฐานและลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ได้ยื่นหลักฐาน เพื่อขอรับการช่วยเหลือเยียวยาดังกล่าว ทั้ง  14 ราย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้ติดตามกำกับ ดูแล อย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านการอำนวยความยุติธรรม การช่วยเหลือเยียวยา และการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ให้กับผู้เสียหาย รวมทั้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับในส่วนของขั้นตอน กระบวนการต่าง ๆ จะมีการดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป