เมื่อวันที่ 12 ส.ค. น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 สนธิกำลังร่วมกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมผู้ร่วมขบวนการขนยาไอซ์ 1.5 ตันได้ ก่อนลำเลียงทางเรือในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี กลางดึกเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 67 ว่า ขอชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่นำมาสู่การจับกุม และเตรียมสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการรายอื่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งหมดนี้เป็นไปตามข้อสั่งการเร่งด่วนของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่กำชับให้ “ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล” ยกประเด็นปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ดำเนิน 3 มาตรการเข้มงวด ตั้งแต่การปิดชายแดน (Seal Border) การยึดทรัพย์ผู้กระทำผิด และการเผาทำลายยาเสพติดของกลาง

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยอดีตพรรคไทยรักไทย ทราบดีว่าปัญหายาเสพติดจะบ่อนทำลายชาติ ประกาศวาระแห่งชาติแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างแข็งขัน เพราะอยากเห็นคนไทยและสังคมไทยที่ปลอดยาเสพติดทั้งในปัจจุบันและอนาคต นโยบายปราบปรามยาเสพติดจึงเป็นอีกหนึ่งเรือธง ที่รัฐบาลนานเศรษฐา จะทำให้สำเร็จ ทุกครั้งในการลงพื้นที่ของท่านนายกฯ ไม่ว่าภูมิภาคใด ท่านนายกฯ จะย้ำหน่วยงานร่วมกันปราบปรามยาเสพติดเสมอ ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายกฯ เศรษฐา ได้กำชับในที่ประชุมหน่วยงานท้องที่ จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 8 และทัพเรือภาคที่ 3 ให้เฝ้าระวังปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติด ตรวจตราเรือขนส่งสินค้าต่าง ๆ ป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดด้วย

“พรรคเพื่อไทยและนายกฯ เศรษฐา จะไม่หยุดปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด “ไม่มีท้อ ไม่มีถอย ไม่มีเหน็ดเหนื่อย เดินหน้าเต็มสูบ” เพื่อให้สังคมไทยปราศจากยาเสพติด คืนสังคมปลอดภัยให้ลูกหลาน และรัฐบาลพร้อมเร่งสนับสนุน อาวุธยุทโธปกรณ์ให้เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เพิ่มภูมิคุ้มกันในการสู้ เพื่อขวัญกำลังใจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และเดินหน้าคืนสังคมที่ปลอดภัย ปลอดยาเสพติดให้คนไทยทุกคน” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว