มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปิดฉากลงเรียบร้อย วันที่ 11 ส.ค.67 ทัพนักกีฬาไทยได้ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง โดย 1 เหรียญทอง จาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง, 3 เหรียญเงิน “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบดมินตัน ชายเดี่ยว, “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนัก รุ่น 61 กก.ชาย, “เวฟ” วีรพล วิชุมา ยกน้ำหนัก รุ่น 73 กก.ชาย และ 2 เหรียญทองแดง จาก “ออย” สุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กก.ชาย และ “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล รุ่น 66 กก.หญิง

ยอดรวมเหรียญโอลิมปิกของไทย นับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันปี 1952 จนถึงปัจจุบันทำเหรียญรางวัลแล้วทั้งสิ้น 41 เหรียญ แบ่งเป็น 11 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน และ 19 เหรียญทองแดง ในจำนวนนั้น “ยกน้ำหนัก” คว้ามาครองได้มากที่สุด 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง รวม 17 เหรียญ, อันดับ 2 “มวยสากล” 4 ทอง 4 เงิน 8 ทองแดง รวม 16 เหรียญ, อันดับ 3 “เทควันโด” 2 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง และล่าสุด “แบดมินตัน” เพิ่งได้เหรียญครั้งแรก จาก กุลวุฒิ 1 เหรียญเงิน

1 ทอง 3 เงิน 2 ทองแดงของไทย จบอันดับที่ 44 ในตารางเหรียญรวม ร่วมกับ จาเมกา และ แอฟริกาใต้ เป็นอันดับที่ 11 ของเอเชีย ต่อจาก จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อุซเบกิสถาน, อิหร่าน,​ บาห์เรน,​ ไทเป, ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์, และอินโดนีเซีย

ส่วนในอาเซียนไทย เป็นอันดับที่ 3 มีฟิลิปปินส์ ซึ่งจบอันดับ 37 นับเป็นที่ 1 ของย่านนี้ ได้ไป 2 ทอง 2 ทองแดง ตามมาด้วย อินโดนีเซีย จบที่ 39 ร่วม ได้ 2 ทอง 1 ทองแดง, ไทย เป็นอันดับ 3, อันดับ 4 มาเลเซีย อันดับ 80 ร่วม จาก 2 ทองแดง และอันดับ 5 สิงคโปร์ อันดับ 84 ร่วม ได้ไป 1 ทองแดง ส่วน เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, บรูไน และติมอร์เลสเต ไม่ได้เหรียญรางวัล

เจ้าเหรียญทองเป็นของ สหรัฐอเมริกา 40 เหรียญทอง ตามมาด้วยอันดับ 2 คือ จีน ที่ได้ 40 เหรียญเท่ากัน แต่ สหรัฐ เหรียญเงินมากกว่า, อันดับ 3 ญี่ปุ่น 20 ทอง, อันดับ 4 ออสเตรเลีย 18 ทอง และอันดับ 5 ฝรั่งเศส 16 ทอง