การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จบสิ้นลง ทัพนักกีฬาไทย ทำผลงาน 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง โดย 1 เหรียญทอง ได้จาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโด รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง สร้างประวัติศาสตร์ นักกีฬาไทยคนแรก ที่คว้าได้ 3 เหรียญในกีฬาโอลิมปิก และยังเป็นคนแรกที่ได้เหรียญทองสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

ส่วน 3 เหรียญเงิน “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบดมินตัน ชายเดี่ยว, “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนัก รุ่น 61 กิโลกรัมชาย, “เวฟ” วีรพล วิชุมา ยกน้ำหนัก รุ่น 73 กิโลกรัมชาย และ 2 เหรียญทองแดง จาก “ออย” สุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง และ “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง

สำหรับเงินรางวัลที่นักกีฬาแต่ละคนจะได้รับ ในเวลานี้ จะมาจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เกณฑ์อัดฉีดโอลิมปิกเกมส์ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ รูปแบบแรก เหรียญทอง 12 ล้านบาท, เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท (จ่ายเป็นเงินก้อนอัตราร้อยละ 50 ส่วนอีกร้อยละ 50 แบ่งจ่ายเป็นรายเดือนในระยะเวลา 4 ปี) รูปแบบที่ 2 คือ การแบ่งจ่ายเป็นเงินก้อนทั้งหมดในครั้งเดียว เหรียญทอง ได้ 10 ล้านบาท, เหรียญเงิน 6 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4 ล้านบาท นักกีฬามีสิทธิเลือกรับเงินรางวัลรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

ขณะที่ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ จะมอบเงินเดือนให้นักกีฬา เป็นระยะเวลา 20 ปี โดย เหรียญทอง ได้รับเงินเดือน เดือนละ 12,000 บาท (รวมเป็นเงิน 2.88 ล้านบาท), เหรียญเงิน ได้รับเงินเดือนในอัตรา เดือนละ 10,000 บาท (รวมเป็นเงิน 2.4 ล้านบาท) และเหรียญทองแดง ได้รับเงินเดือนในอัตรา เดือนละ 8,000 บาท (รวมเป็นเงิน 1.92 ล้านบาท) โดยนักกีฬาจะได้รับเงินเดือนดังกล่าวทันทีในเดือนถัดไป หลังจากที่คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์

นอกจากนี้ ภาคเอกชน บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) อัดฉีดเหรียญทอง 1 ล้านบาท, เหรียญเงิน 5 แสนบาท และเหรียญทองแดง 3 แสนบาท

ส่วน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เฉพาะนักกีฬายกน้ำหนัก เหรียญทอง 5 ล้านบาท, เหรียญเงิน 3 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2 ล้านบาท

ขณะที่ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ มอบเงินส่วนตัวให้ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ที่ได้เหรียญเงิน แบดมินตัน ชายเดี่ยว ซึ่งเป็นเหรียญประวัติศาสตร์ในกีฬาโอลิมปิก 1.5 ล้านบาท

ด้าน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็มอบเงินรางวัล 1.5 ล้านบาท ให้เฉพาะ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ รวมถึง จากการที่ นายสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ พ่อของ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย ซึ่งเดินทางไปให้กำลังใจลูกสาว พร้อม “เบสบอล” ศราวิน วงศ์พัฒนกิจ พี่ชายของ “เทนนิส” และครอบครัวได้เดินทางไปให้กำลังใจจอมเตะสาวไทย ที่สนามแข่งขันกรุงปารีส ได้โพสต์ขอบคุณ นายสุริยะ​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ไปเชียร์ถึงสนามแข่งขัน พร้อมจัดเลี้ยงวันเกิดให้ และให้เงินอัดฉีดส่วนตัว 3 ล้านบาท

PARIS, FRANCE – AUGUST 07: Theerapong Silachai of Team Thailand performs a clean and jerk during the Weightlifting Men’s 61kg on day twelve of the Olympic Games Paris 2024 at South Paris Arena on August 07, 2024 in Paris, France. (Photo by Lars Baron/Getty Images)

นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ประธานที่ปรึกษาสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย อัดฉีด จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักมวยหญิง 1 ล้านบาท

หงส์ไทย มอบให้นักกีฬาที่ได้เหรียญอีกคนละ 2 แสนบาท

ทำให้ยอดรวมเงินรางวัลอัดฉีด แต่ละคน ถึงตอนนี้มีดังนี้ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่คว้าเหรียญทอง อยู่ที่ 19.08 ล้านบาท รองลงมาเป็น 3 เหรียญเงินของไทย “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศาสตร์ แบดมินตัน ชายเดี่ยว, “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาลัย ยกน้ำหนัก รุ่น 61 กิโลกรัมชาย และ “เวฟ” วีรพล วิชุมา ยกน้ำหนัก รุ่น 73 กิโลกรัมชาย ได้ไปคนละ 13.3 ล้านบาท

ส่วนเหรียญทองแดง “ออย” สุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กิโลกรัม ได้ 9.22 ล้านบาท และ “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง ได้ 8.22 ล้านบาท