สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่า กองทัพฟิลิปปินส์รายงานว่า เครื่องบินของกองทัพอากาศจีน 2 ลำ ดำเนิน “ปฏิบัติการที่อันตราย” และปล่อยพลุในเส้นทางของใบพัดเครื่องบินของกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ เหนือแนวสันดอนสการ์โบโรห์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

แม้เครื่องบินลาดตระเวนลำดังกล่าวกลับถึงฐานได้อย่างปลอดภัย แต่รัฐบาลมะนิลาระบุว่า การกระทำของฝ่ายจีนทำให้ชีวิตของลูกเรือตกอยู่ในอันตราย

“การกระทำของจีนนั้นไม่มีเหตุผล, ผิดกฎหมาย และมีความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เครื่องบินของกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ กำลังปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยทางทะเลตามปกติ ในน่านฟ้าอธิปไตยของฟิลิปปินส์” มาร์กอส กล่าวในแถลงการณ์ และประณามเหตุการณ์ข้างต้นอย่างรุนแรง

ขณะเดียวกัน ทางการจีนได้ออกมาปกป้องปฏิบัติการดังกล่าว โดยระบุว่า จีนจัดกองกำลังทหารเรือและทหารอากาศ เพื่อขับไล่เครื่องบินของฟิลิปปินส์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังมีการประกาศเตือน “ซ้ำหลายครั้ง”

“เรากล่าวเตือนฟิลิปปินส์อย่างจริงจัง ให้หยุดการละเมิด, การยั่วยุ, การบิดเบือน และการสร้างกระแสในทันที” ศูนย์บัญชาการภูมิภาคใต้ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (พีแอลเอ) ระบุในแถลงการณ์ พร้อมกับเสริมว่า จีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือ “เกาะหวงเหยียน” ซึ่งเป็นชื่อที่จีนใช้เรียกแนวสันดอนสการ์โบโรห์ และน่านน้ำใกล้เคียงอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

อนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นกรณีล่าสุดของการเผชิญหน้าที่ตึงเครียดมากขึ้น ระหว่างรัฐบาลมะนิลา และรัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งฝ่ายจีนอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด และยึดครองแนวปะการังดังกล่าว ภายหลังการเผชิญหน้ากับฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2555.

เครดิตภาพ : AFP