เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยาน เข้าให้การช่วยเหลือลูกพะยูนขณะว่ายน้ำเพียงลำพัง บริเวณเกาะปอดะ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เบื้องต้นได้ขนย้ายมารักษาและอนุบาลที่สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นลูกพะยูนเพศผู้ อายุประมาณ 1-2 เดือน ความยาว 102 ซม. น้ำหนัก 13.8 กก. โดยอาการของลูกพะยูน อยู่ในสภาพอ่อนแรง ตาจมลึกแสดงถึงภาวะขาดน้ำ แต่ยังสามารถยกหัวขึ้นหายใจได้ พบรอยบาดแผลบริเวณส่วนจมูกและหัวเล็กน้อย ร่างกายค่อนข้างผอม บริเวณตาซ้ายขุ่น ปอดมีความชื้นเล็กน้อย ลำไส้มีการบีบตัว และพะยูนยังมีความอยากกินอาหาร ทีมเจ้าหน้าที่ให้การดูแลตลอด 24 ชั่วโมง โดยป้อนนมทดแทนและน้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อชดเชยภาวะการขาดน้ำ มีการใช้นมผงเด็กเป็นนมทดแทนให้กับพะยูน ซึ่งสัตวแพทย์จะวางแผนตรวจสุขภาพอย่างละเอียด
ขณะที่นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โพสต์เฟซบุ๊ก Kongkiat Kittiwatanawong ระบุว่า แม้ลูกพะยูนจะแสดงให้เห็นถึงอาการในทางที่ดีขึ้น แต่ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ เคสนี้คล้ายกับ “มาเรียม” และ “ยามีล” ลูกพะยูนพลัดหลงแม่ที่พบเกยตื้นก่อนหน้านี้ ซึ่งครั้งนี้ต้องใช้บทเรียนและข้อผิดพลาดในอดีตมาทำให้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้หากเป็นการทำงานของภาครัฐเพียงอย่างเดียว ในเร็ว ๆ นี้อาจต้องขอความช่วยเหลือจากทีมอาสาสมัคร ชุมชนและประชาชนทั่วไป เพื่อร่วมสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้น.