เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครบรอบ 132 ปี โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทดลองจัดระเบียบการปกครองระดับตำบลและหมู่บ้านขึ้นเป็นครั้งแรกที่บ้านเกาะ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2435 ซึ่งเป็นจุดกำเนิดในการจัดตั้งสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในประเทศไทย ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าทุกหมู่บ้านในไทยมีกำนันและผู้ใหญ่บ้านที่ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนคนไทย โดยมีความเกี่ยวข้องกับประชาชนตั้งแต่การเกิดจากครรภ์มารดาจนสู่เชิงตะกอน ขณะเดียวกัน การทำหน้าที่ด่านหน้าของกำนันและผู้ใหญ่บ้านย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงนานัปการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ปัญหายาเสพติดกำลังระบาดอย่างรุนแรง และปัญหาที่เกี่ยวกับความไม่มั่นคงในพื้นที่ ซึ่งทำให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านต้องประสบกับความเสี่ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
นายสรรเพชญ กล่าวอีกว่า แม้เป็นหน่วยปกครองที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าหน่วยการปกครองในระดับอื่น ทั้งต่อการบริหารราชการแผ่นดินในภาพรวม และในด้านของความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะที่อัตราค่าตอบแทนของกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2566 ให้ค่าตอบแทนดังนี้ กำนัน ขั้นต่ำ 12,000 บาท ขั้นสูง 15,000 บาท, ผู้ใหญ่บ้าน ขั้นต่ำ 10,000 บาท ขั้นสูง 13,000 บาท, แพทย์ประจำตำบล ขั้นต่ำ 6,000 บาท ขั้นสูง 10,000 บาท, สารวัตรกำนัน ขั้นต่ำ 6,000 บาท ขั้นสูง 10,000 บาท, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ขั้นต่ำ 6,000 บาท ขั้นสูง 10,000 บาท, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ ขั้นต่ำ 6,000 บาท ขั้นสูง 10,000 บาท
“ผมขอส่งเสียงไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทยที่กำกับดูแลกำนันและผู้ใหญ่บ้านโดยตรง ให้พิจารณาเรื่องสวัสดิการต่างๆ ของกำนันและผู้ใหญ่บ้านให้มีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งเรื่องค่าครองชีพ ค่าเสี่ยงภัย เพื่อเป็นหลักประกันให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ในเรื่องปัญหายาเสพติดและความมั่นคง กำนันและผู้ใหญ่บ้านเป็นด่านหน้าในการเฝ้าระวังปัญหาที่จะเกิดขึ้นในหมู่บ้าน และชุมชนที่รับผิดชอบโดยตรง ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น เพราะฉะนั้นรัฐควรดูแลกำนัน และผู้ใหญ่บ้านเหล่านี้ ให้มีความเหมาะสมด้วย” นายสรรเพชญ กล่าว