สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่า แรปป์เลอร์ และน.ส.มาเรีย เรสซา ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เมื่อปี 2564 และผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ ต่อสู้คดีหลายคดีที่ถูกยื่นในสมัยอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต
ทั้งนี้ เรสซา และสำนักข่าวออนไลน์ของเธอ วิพากษ์วิจารณ์ดูเตร์เต และสงครามยาเสพติดเมื่อปี 2559 ซึ่งการกระทำดังกล่าวจุดชนวนให้ทางการฟิลิปปินส์ในเวลานั้น ตั้งข้อหาทางอาญา, ดำเนินการสอบสวน รวมถึงโจมตีทางออนไลน์ต่อเธอและแรปป์เลอร์
อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์ฟิลิปปินส์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา พลิกคำตัดสินก่อนหน้านี้ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (เอสอีซี) ของฟิลิปปินส์ ที่สั่งปิดเว็บไซต์แรปป์เลอร์ โดยระบุว่า คำสั่งของเอสอีซีถือเป็น “การใช้ดุลพินิจในทางมิชอบอย่างร้ายแรง” และขัดต่อขั้นตอนที่กำหนด, คำแนะนำทางนิติศาสตร์และกฎหมาย ตลอดจนเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของรัฐธรรมนูญ
“วันนี้คือวันแห่งการเฉลิมฉลอง และวันแห่งความหวัง” เรสซา กล่าวในการแถลงข่าวที่ห้องข่าวของแรปป์เลอร์ ในกรุงมะนิลา
ด้านนายคาร์ลอส คอนเด นักวิจัยอาวุโสจากองค์กรสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมน ไรท์ส วอทช์” (เอชอาร์ดับเบิลยู) กล่าวเพิ่มเติมว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ฟิลิปปินส์ ถือว่ามีความยุติธรรม และเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง
แม้เรสซาและอดีตเพื่อนร่วมงาน ยังคงอุทธรณ์คำตัดสินในคดีหมิ่นประมาททางไซเบอร์ ซึ่งมีโทษจำคุกเกือบ 7 ปี และเธออาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอื่นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของบริษัท โอมิดดียาร์ เน็ตเวิร์กส์ แต่เรสซายืนกรานว่า จะไม่ยอมให้การดำเนินคดีเหล่านี้มาขัดขวางงานของเธอ.
เครดิตภาพ : AFP