สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่ากระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานของตุรกีออกแถลงการณ์ ว่าประชาชนสามารถเข้าถึง และใช้งานอินสตาแกรมได้ตามปกติ ตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และระบุด้วยว่า การปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์มดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์ต้องการให้อีกฝ่าย “เคารพกฎหมายของตุรกี”


ทั้งนี้ ตุรกียังคงกล่าวว่า อินสตาแกรมยังคงเพิกเฉยต่อคำร้องของรัฐบาล ซึ่งต้องการให้มีการลบเนื้อหาผิดกฎหมาย “ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ยาเสพติด และการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก”


ด้านเมตาซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอินสตาแกรม ปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับการปิดกั้นอินสตาแกรมที่ยาวนานกว่า 1 สัปดาห์ แต่ยืนยันว่า ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอังการามาตลอด โดยลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายไปแล้วเกือบ 2,500 รายการ นับตั้งแต่ต้นปีนี้


อย่างไรก็ตาม การปิดกั้นการเข้าถึงอินสตาแกรมของตุรกีในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายในเวลาไม่นาน หลังนายฟาห์เรตติน อัลตุน หนึ่งในที่ปรึกษาของประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี แสดงความไม่พอใจอย่างหนัก ที่อินสตาแกรม ไม่อนุญาตให้มีการโพสต์ภาพและข้อความ เพื่อแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ซึ่งเสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีในอิหร่าน และทุกฝ่ายพุ่งเป้าไปที่อิสราเอล


ปัจจุบัน ราว 60%-70% ของประชากรราว 65 ล้านคนในตุรกี มีบัญชีอินสตาแกรมเป็นของตัวเอง สร้างรายได้ให้แก่แพลตฟอร์มวันละประมาณ 57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2,009.42 ล้านบาท ) ตามข้อมูลของสมาคมอี-คอมเมิร์ซแห่งชาติตุรกี.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES