สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ ว่านายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ยกเลิกกำหนดการเยือนคาซัคสถาน อุซเบกิสถาน และมองโกเลีย และยกเลิกการเข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาคอีกหลายรายการ ซึ่งตามกำหนดจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์นี้ เรื่อยไปจนถึงสัปดาห์หน้า
คิชิดะ กล่าวว่า เขาตัดสินใจเองว่า ควรอยู่ในญี่ปุ่นต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้ประชาชน “ตื่นตัว” แต่อย่าวิตกกังวลจนกลายเป็นความตื่นตระหนก และขอให้ทุกคนดำเนินชีวิตตามปกติ ทว่ามีรายงาน ประชาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มกักตุนสินค้าและอาหาร
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของผู้นำญี่ปุ่นเกิดขึ้น หลังสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (เจเอ็มเอ) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศ โดยเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ภายใต้ระบบใหม่ ซึ่งได้รับการปรับปรุงหลังแผ่นดินไหวรุนแรง 9.0 แมกนิจูด เมื่อปี 2554 ที่ตามด้วยสึนามิขนาดยักษ์ และภัยพิบัตินิวเคลียร์เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ
แม้เนื้อหาในรายงานฉบับดังกล่าวเตือนว่า “แนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มีมากขึ้นกว่าปกติ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเกิดขึ้นในที่สุด”
ทั้งนี้ ภูมิภาคคิวชู ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เผชิญกับแผ่นดินไหวรุนแรง 7.1 แมกนิจูด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 คน ในจำนวนนี้สองคนมีอาการสาหัส.
เครดิตภาพ : AFP