เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังพรรคก้าวไกลตั้งพรรคใหม่ในชื่อพรรคประชาชน โดยมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรค และได้แสดงวิสัยทัศน์ไม่ลดเพดานการเคลื่อนไหวแก้ไขมาตรา 112 ว่า ก่อนอื่นก็ขอแสดงความยินดีด้วยกับนายณัฐพงษ์ ที่เป็นผู้นำคนใหม่พรรคประชาชน ต่อจากนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ แต่ตนมองว่า ควรใช้ความรู้ความสามารถที่มีสร้างนโยบายใหม่ๆ ที่ดีมีประโยชน์ พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมาเป็นอันดับแรก แข่งขันกับพรรคอื่นด้วยนโยบายใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์แก้ปัญหาปากท้อง ความยากจน แก้เศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษาของเด็กเยาวชนก่อน

เมื่อถามว่า แต่หัวหน้าพรรคประชาชน ประกาศเดินหน้าแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อจากพรรคก้าวไกลที่ทำไว้เดิม แบบไม่ลดเพดานนั้น นายธนกร กล่าวว่า นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตนมองว่า สมควรจะต้องถอดบทเรียนคดีที่ถูกยุบพรรคก้าวไกลให้ละเอียด และนำไปกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานของพรรคประชาชนเสียใหม่ ว่าการกระทำที่ผ่านมานั้น บกพร่องผิดพลาดจริงตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างละเอียด ชัดเจนตามกรอบของกฎหมายแล้ว ไม่ใช่การดื้อแพ่ง พยายามหาช่องที่จะเดินหน้าแก้กฎหมายดังกล่าวต่ออย่างต่อเนื่อง แบบไม่ลดเพดาน แม้จะบอกว่าไม่ประมาทและต้องปรับวิธีการก็ตาม ตนมองว่า ล้วนแต่เป็นความเสี่ยงในทางการเมืองทั้งสิ้น ที่สำคัญกฎหมายมาตรา 112 เป็นการปกป้องไม่ให้ผู้ใดละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นความมั่นคงของชาติมิได้ จึงขอเรียกร้องให้พรรคประชาชน คิด วิเคราะห์ แยกแยะ และทบทวนให้ดีก่อนจะเริ่มนับหนึ่ง เพราะถือเป็นความเสี่ยงต่ออนาคตทางการเมือง

“เจอผมแน่ ถ้าไม่ลดเพดาน ขอบอกไว้ตรงนี้ชัดๆ เลยว่า ไม่แก้ ไม่ยกเลิก ไม่แตะต้องมาตรา 112 เด็ดขาด ถ้าใครพรรคไหนยังคิดจะแก้อีก ก็คงต้องมาสู้กัน พร้อมสู้เต็มที่ สู้ตามวิถีทางของสภา สู้ตามกฎหมาย ยืนยัน คนรักเทิดทูนสถาบัน พร้อมออกมาปกป้อง ไม่ยอมแน่นอน ผมว่าทำเรื่องอื่นเถอะ เรื่องดี ๆ นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ผู้มีรายได้น้อย แก้ปัญหาปากท้อง ทำเศรษฐกิจให้ดี ดีกว่าตั้งเยอะ” นายธนกร กล่าว.