ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางชนิษา วิมลวัฒนา นายกเทศมนตรีเมืองสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย นายสัญญา บุญศิริ รองนายกเทศมนตรีฯ นายนาวาวิน ชัยโม รองนายกเทศมนตรีฯ นางวัชร์ศมนฑน์ ปภาชยาธนันต์ รองนายกเทศมนตรีฯ นางเนาวรัตน์  วิสัยชนม์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รักษาการผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม นางสุทิชชา แสงหมี พยาบาลวิชาชีพ นางโฉมศรี เสาวนนท์ นักวิชาการสุขาภิบาล ร่วมกับประธานชุมชน และคณะกรรมการชุมชน 19 ชุมชน จัดโครงการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระยาศรีสวางควัฒน์ วรขัตติยราชนารี ประจำปี 2567

เพื่อให้ประชาชนได้รับการตรวจประเมิน และรักษาอาการป่วยด้วยโรคติดต่อ และโรคไม่ติดต่อ รวมถึงชาวบ้านได้มีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพตนเองเบื้องต้น โดยมีกิจกรรมตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ตรวจคัดกรองสุขภาพปาก และฟัน การตรวจรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นด้วยการใช้ยาแผนปัจจุบัน รวมถึงการรักษาอาการด้วยยา และแพทย์แผนไทย

นางชนิษา กล่าวว่า ได้จัดโครงการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ตรวจเพื่อคัดกรอง และประเมินความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในประชาชนกลุ่มอายุ 35 ปี ขึ้นไปต้องได้รับการตรวจคัดกรองการดูแลสุขภาพ รวมถึงเพื่อให้ผู้นำชุมชน อสม, แกนนำผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตนเอง เพื่อป้องกัน และควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ส่งต่อข้อมูลให้เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสองพี่น้อง รวมถึงโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 เพื่อกำหนดมาตรการ และวิธีการเชิงรุกในการส่งเสริมสุขภาพการป้องกันโรค และบริการที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วย และกลุ่มป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน”ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในการสืบสานตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการพระราชทานความช่วยเหลือด้านการแพทย์ และการสาธารณสุขแก่ประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทรงสนับสนุนการสร้างเสริมสุขอนามัยที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ได้มาตรฐาน พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป” นางชนิษา กล่าว