สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ว่า เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวถึงสถานการณ์ภายในประเทศ ที่กำลังวุ่นวายจากการประท้วงและจลาจลของกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาจัด ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าแม้สถานการณ์มีแนวโน้มสงบมากขึ้น แต่ฝ่ายความมั่นคง “เตรียมพร้อมระดับสูงสุด” เพื่อรับมือกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นอีก และยืนยันว่า ผู้กระทำผิดทุกคนต้องรับโทษตามกฎหมาย “โดยไม่มีข้อยกเว้น”


สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นความวุ่นวายทางสังคมครั้งเลวร้ายที่สุดของสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่เหตุจลาจลในกรุงลอนดอน เมื่อปี 2554 ซึ่งชวนเหตุในเวลานั้น มาจากการที่ตำรวจวิสามัญชายผิวสี


ส่วนชนวนเหตุของการเกิดรุนแรงและความวุ่นวายครั้งล่าสุดในสหราชอาณาจักร มาจากเหตุวัยรุ่นชาวผิวสี วัย 17 ปี บุกใช้มีดไล่แทงเด็กภายในห้องเรียนเต้น ที่เมืองเซาธ์พอร์ต ทางตอนกลางของเกาะอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีเด็กหญิงเสียชีวิต 3 ราย


แม้พนักงานสอบสวนยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าว “ไม่ใช่การก่อการร้าย” แต่การที่มีรายงานว่า มือมีดเป็นชาวมุสลิมและมีแนวคิดหัวรุนแรง จุดกระแสต่อต้านผู้อพยพลุกลามไปตามเมืองใหญ่หลายสิบแห่งของสหราชอาณาจักร จนสำนักงานตำรวจต้องเตรียมชุดปฏิบัติการพิเศษมากกว่า 6,000 นาย เพื่อควบคุมสถานการณ์


จนถึงตอนนี้ มีผู้ถูกจับกุมจากสถานการณ์รุนแรงรอบนี้แล้วมากกว่า 600 คน ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ในจำนวนนี้มากกว่า 140 คนถูกดำเนินคดี ขณะที่นานาประเทศประกาศเตือนภัยพลเมืองของตัวเอง ในการเดินทางและใช้ชีวิตในสหราชอาณาจักร.

เครดิตภาพ : AFP