จากกรณีที่มีข่าวทางสื่อออนไลน์ระบุถึงมาตรการการเข้าร่วมพิธีทอดกฐินพระราชทานว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ไม่น่าจะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพิธี อนุญาตเฉพาะคนที่ฉีดแอสตราเซเนกา, ไฟเซอร์, โมเดอร์นา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน นั้น

นายประสพ เรียงเงิน รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวน่าจะเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นความจริง เนื่องจาก วธ. โดยกรมการศาสนา (ศน.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ประชุมหารือร่วมกับกรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดข้อปฏิบัติเกี่ยวกับพิธีถวายพระกฐินพระราชทาน โดยการได้รับวัคซีนที่ระบุไว้ในข้อปฏิบัติจะหมายความรวมถึงวัคซีนทุกยี่ห้อที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือองค์การอนามัยโลกรับรอง และ พศ.ได้นําข้อปฏิบัติดังกล่าวเสนอให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2564 เห็นชอบแล้ว

โฆษกวธ. กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้มีการแจ้งแนวปฏิบัติสำหรับวัดต่างๆ และข้อปฏิบัติเกี่ยวกับพระกฐินพระราชทานสำหรับผู้ขอรับพระราชทานและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานพิธีถวายพระกฐินพระราชทานให้ภาคส่วนต่างๆ รับทราบแล้ว โดยแนวปฏิบัติมีรายละเอียดต่างๆ อาทิ ผู้เข้าร่วมพิธีต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรืออย่างน้อย 1 เข็ม มาแล้วไม่ต่ำกว่า 14 วัน ในวัคซีนที่ อย. หรือองค์การอนามัยโลกให้การรับรอง กรณีการข้ามเขตจังหวัดของผู้ถวายหรือผู้เข้าร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน หรือกฐินราษฎร์ สำหรับผู้ถวายหรือผู้เข้าร่วมพิธี ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือได้รับวัคซีนยังไม่ครบโดสตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของ สธ. อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเทคนิค RT-PCR หรือ Antigen Test Kits พร้อมใบรับรองแพทย์ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่ต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับข้อปฏิบัติในพิธีถวายผ้าพระกฐินในปีนี้ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม 1765 หรือกองศาสนพิธี โทร. 0-2209-3721-22