เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดบริเวณทางเข้าสะพานปลา หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทางดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย และพบว่าจุดที่ระเบิดอยู่ริมถนนบริเวณใกล้เพลิงร้านค้า แต่โชคดีวันนี้เป็นวันหยุด จึงไม่มีใครได้รับอันตราย มีเพียงเศษหินและดินกระจาย และชิ้นส่วนระเบิดกระจายตกบนถนน จากนั้นประมาณ 20 นาที ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่นั้น ได้เกิดระเบิดขึ้นอีก 1 ลูก บริเวณถังขยะใกล้กับป้อมยาม ห่างจากลูกแรกประมาณ 200 เมตร แรงระเบิดทำให้สะเก็ดระเบิดกระจายไปถูกเสาไฟฟ้าและตัวอาคารป้อมยาม โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย

และในขณะที่ พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ห่างจากระเบิดลูกที่สองประมาณ 250 เมตร สังเกตเห็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ด้านหลังกระบะมีกล่องโฟมวางอยู่คล้ายรถพ่อค้าจอดอยู่ผิดสังเกต ติดกำแพงแฟลตตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี จึงบอกให้เจ้าหน้าที่ออกห่างและเป็นช่วงจังหวะที่ ด.ต.โสภน รักนิ่ม ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองปัตตานี พร้อมด้วย ร.ต.อ.ภูมิวิรัตน์ มณีรัตน์ รอง สว.สส.สภ.เมืองปัตตานี ใช้รถหุ้มเกราะกำลังเข้าตรวจสอบจุดที่สองอยู่นั้น ปรากฏว่าคนร้ายได้กดชนวนระเบิดคาร์บอมบ์รถกระบะคันดังกล่าว ทำให้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สะเก็ดระเบิดกระเด็นเจาะกระจกหุ้มเกราะหน้ารถ และประตูด้านซ้ายเกือบทะลุ โชคดีทั้งสองนายปลอดภัย อีกทั้งสะเก็ดระเบิดยังถูกรถของ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี บริเวณกระจกหน้ารถ โดยแรงระเบิดทำให้ไฟลุกไหม้รถกระบะจนเหลือซาก นอกจากนี้แรงระเบิดยังทำให้กระจกของแฟลตแตกกระจาย ข้าวของเครื่องใช้พังเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สะเก็ดชิ้นส่วนของรถขนาดใหญ่ที่เกิดระเบิด ได้กระเด็นเฉียดหัวของ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี แต่โชคดีที่หลบไว้ได้ทัน นอกจากนี้ยังพบชาวบ้านถูกชิ้นส่วนบริเวณขาขวา

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างระมัดระวังทั้ง 3 จุด โดยเฉพาะเก็บรวบรวมวัตถุพยาน ชิ้นส่วนระเบิด และอื่นๆ เพื่อรวบรวมนำไปตรวจสอบหาหลักฐานความเชื่อมโยงว่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มใด โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด ให้ตรวจสอบทุกจุด ทั้งเส้นทางเข้าและออก ซึ่งเบื้องต้นพบว่า คนร้ายมีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายน่าจะไม่ต่ำกว่า 6-8 คน ใช้รถ จยย. เป็นพาหนะ นำระเบิดมาวางไว้บริเวณจุดที่ 1 และ 2 ก่อนจะขับรถออกไป จากนั้นคนร้ายได้ขับรถคาร์บอมบ์มาจอด ก่อนที่คนร้ายอีกคนขี่รถ จยย. มารับหลบหนีไป ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวของคนร้ายคล้ายกับการก่อเหตุในลักษณะเดิมๆ ที่เกิดขึ้น ก่อนที่คนร้ายจะกดระเบิดลูกที่ 1 หวังเรียกเจ้าหน้าที่มาที่เกิดเหตุ จากนั้นคนร้ายได้กดระเบิดลูกที่ 2 และลูกที่ 3 ซึ่งเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ หวังลวงสังหารเจ้าหน้าที่

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยลูกแรกและลูกที่สองที่เกิดระเบิดขึ้นนั้น และเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดคาร์บอมบ์ ซึ่งเป็นระเบิดลูกที่ 3 คาดว่าคนร้ายต้องการลวงเจ้าหน้าที่ที่กำลังเข้าตรวจสอบ โชคดีเจ้าหน้าที่อ่านเกมของคนร้ายไว้ได้ จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด.