เป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อ “นักกีฬาไทย” พก “ยาดม” ชื่อดังของเมืองไทย สูดปรี๊ดเดียว คว้าเหรียญโอลิมปิกกลับมาฝากคนไทย เป็นกอบเป็นกำ จนกลายเป็นไวรัลที่ทั่วโลกถามถึง และถ้าย้อนกลับไปท่องโลกโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้ ยาดมของไทยยังเป็ญขวัญใจทุกวงการ ทั้งนักกีฬา บุคคลสำคัญ นักร้องชื่อก้องโลกยังต้องอิมพอร์ตจากไทยดมก่อนขึ้นเวที ไม่ต้องพูดถึงนักท่องเที่ยว ยาดมไทยกลายไอเท็มที่ต้องมีติดตัว หรือซื้อเป็นของฝาก  

ล่าสุด “พท.ป.เบญจวรรณ หมายมั่น หัวหน้าฝ่ายสื่อสารข้อมูล ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ฯ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” มาเปิดสูตร เปิดสรรพคุณยาดมไทย ยิ่งทำให้ใจฟู โดยอธิบายว่า การทำยาดม ยาลม เป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน โดยหลักการคือ ใช้กลิ่นในการเข้าไปบำบัดปรับสมดุลของธาตุลม ในทางแผนไทยคือเมื่อมีอาการ วิงเวียน เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่สดชื่นมักมีผลจากธาตุลมที่ทำงานไม่สมดุลปกติ จึงต้องกระตุ้นให้ธาตุลมเดินสะดวก ที่ทำง่ายที่สุดคือการใช้สมุนไพรที่มีกลิ่นหอม สดชื่นในการกระตุ้นและการจายลม ก็จะช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ รวมถึงแก้หวัดคัดจมูกได้

ยาดมในประเทศไทยมีหลากหลายสูตรตำรับมากขึ้นอยู่กับความชอบและสูตรตำรับที่คิดค้น มีหลากหลายรูปแบบทั้งยาดมสมุนไพรแห้ง ยาดมแบบน้ำ รวมถึงบาล์ม 

สำหรับสมุนไพรในตำรับที่นิยมนำมาใช้ทำยาดมสมุนไพร และมีกลิ่นหอม เช่น ผิวมะกรูด ผิวส้ม มีน้ำมันหอมระเหยที่ให้ความสดชื่น ผ่อนคลาย

สมุนไพรกลุ่มเครื่องเทศที่ช่วยกระจายลมได้ดี เช่น ดอกจันทร์ พริกไทย กระวาน กานพลู เปราะหอม อบเชย ลูกผักชี เหล่านี้มีสรรพคุณเด่นในด้านการขับลม กระจายลมได้ดี

และยังสามารถเลือกใช้สมุนไพรตระกูลโกฐ เช่น โกฐสอ ทางยาไทยช่วยแก้ไข หวัด ไอ ทำหัวใจให้ชุ่มชื่น โกฐหัวบัวกลิ่นเอกลักษณ์ สรรพคุณกระจายลมทั้งปวง แก้ปวดศีรษะ เปลือกสมุลแว้ง มีกลิ่นหอมฉุนช่วยแก้ลมวิงเวียนได้

ในการทำยาดมจะมีการเติมการบูร พิมเสน เมทอล น้ำมันยูคาลิปตัส เพื่อช่วยให้กลิ่นสดชื่นหอมเย็นมากขึ้น ส่วนกลิ่นแต่ละสูตรตำรับจะมีการใช้สัดส่วนหรือส่วนประกอบที่แตกต่างกันไปได้ตามความชอบแต่มักจะให้กลิ่นที่มีความสดชื่นเป็นหลัก

“หมอเบญ” บอกว่า สำหรับสูตรตำรับของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จะนำสมุนไพรแห้งที่มีกลิ่นหอมเย็น มาประกอบเป็นสูตรตำรับ และหมักด้วยน้ำมันหอมระเหยที่จะทำหน้าที่เป็นตัวสกัดดึงเอากลิ่นของสมุนไพรในตำรับออกมาให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น สรรพคุณคือใช้สูดดมแก้ลมวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย ช่วยให้สดชื่น โดยมีส่วนประกอบได้แก่ เปลือกสมุลแว้ง โกฐหัวบัว โกฐสอ ดอกจันทน์ กานพลู พริกไทยดำ ว่านเปราะหอม ใช้อย่างละเท่ากัน น้ำมันหอมระเหย ได้แก่ พิมเสน 2 กรัม การบูร 4 กรัม เมนทอล 8 กรัม น้ำมันยูคาลิปตัส 16 มิลลิลิตร

วิธีทำ 1. นำสมุนไพรทั้งหมด บดให้เป็นชิ้นเล็กๆ และ บุบพริกไทยพอหยาบ 2. นำพิมเสน การบูร เมนทอล และน้ำมันยูคาลิปตัส ผสมกันในถ้วยให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน 3.จากนั้นนำสมุนไพรที่บดแล้วใส่ในขวดแก้ว เติมส่วนผสมของเหลวที่ได้ท่วมตัวยาสมุนไพร และปิดฝาให้สนิท 4. ตั้งขวดแก้วทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน เป็นการหมักให้กลิ่นของสมุนไพรหอมมากขึ้น จากนั้นนำมาตักแยกใส่ขวดเล็กๆ ได้

“จากสูตรตัวอย่างที่แนะนำจะเห็นว่าไม่ได้มีสารอันตรายหรือสารต้องห้ามใดๆ ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นการใช้ในบุคคลทั่วไป หรือแม่แต่นักกีฬาที่มีการเข้มงวดเรื่องสารเคมีสารต้องห้ามก็สามารถใช้ได้ เพราะเป็นสูตรตำรับที่ช่วยบรรเทาอาการได้อย่างปลอดภัย” หมอเบญ ระบุ

หมอเบญ บอกอีกว่ายาสมุนไพรของไทย ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอย่างมาก เนื่องจากสามารถพกพา และใช้ได้สะดวกให้กลิ่นหอม สดชื่น ช่วยผ่อนคลาย และราคาไม่แพงจึงทำให้กลายเป็นของที่นักท่องเที่ยวนิยมเลือกซื้อ เป็นของฝากและยังช่วยให้สดชื่นขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การใช้ชีวิตและการเดินทางได้ เคยมีรายงานของ Nielsen บริษัทวิจัยตลาด ได้พูดถึงมูลค่าตลาดของยาดมมีมูลค่าถึง 4.5 พันล้านบาท และ 10% ของประชากรในประเทศไทยมีการใช้ยาดม และซื้อมากกว่า 1 ครั้งต่อปี ถือเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มหาศาล.