เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ ห้องประชุมราชสีห์ อาคารศาลากลางว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ครั้งที่ 3/2567 โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เรือเอกสาโรจน์ คมคาย รองปลัดกระทรวงแรงงาน น.ส.ทัศนีย์ พิศาลรัตนคุณ ผู้แทนปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส. นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายศิริสุข ยืนหาญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดือน ส.ค.นี้ ถือเป็นเดือนสุดท้ายตามปฏิทินปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (มิถุนายน-สิงหาคม 2567) ในพื้นที่ 25 จังหวัด ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายของปฏิบัติการที่กำหนดไว้ โดยขอให้ทุกหน่วยงานอย่ายึดติดกับการทำงานที่บรรลุเป้าหมายเท่านั้น แต่ขอให้มุ่งที่ผลลัพธ์เป็นสำคัญ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ประชาชนต้องมีความเชื่อมั่นและความพึงพอใจต่อการดำเนินงานของรัฐบาล พร้อมกล่าวถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้ความชื่นชมผลการทำงานของทุกหน่วยงานที่ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติดใน 25 จังหวัดเร่งด่วน และให้มีการขยายผลการทำงานให้ครบ 77 จังหวัดต่อไป โดยให้มีการสำรวจหมู่บ้านและชุมชน (Re X-ray) เพื่อกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และนำรูปแบบ “ธวัชบุรีโมเดล” ของจังหวัดร้อยเอ็ด มาเป็นต้นแบบในการทำงาน ประยุกต์ใช้ตามบริบทของสภาพปัญหาแต่ละพื้นที่

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า สำหรับผลการดำเนินงานปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ในพื้นที่ 25 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.67- 4 ส.ค.67 ดังนี้ 1.ด้านการปราบปราม มีผลการดำเนินงานบรรลุผลในภาพรวม การดำเนินคดีผู้กระทำความผิดฐานความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 13,785 คดี จังหวัดที่มีผลงานโดดเด่นที่น่าได้รับการชมเชย ได้แก่ สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นครศรีธรรมราช ส่วนการดำเนินคดีข้อหาสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ จำนวน 451 คดี จังหวัดที่มีผลงานโดดเด่นที่น่าได้รับการชมเชย ได้แก่ สมุทรปราการ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และมีการตรวจสอบทรัพย์สินเบื้องต้น จำนวน 899.91 ล้านบาท จังหวัดที่มีผลงานโดดเด่นที่น่าได้รับการชมเชย ได้แก่ นครศรีธรรมราช ชลบุรี ร้อยเอ็ด ขณะที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุมกลุ่มเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญไปแล้ว 214 เครือข่าย

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ส่วนด้านการบำบัดรักษา นําผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบําบัด ที่มีการดำเนินการในรูปแบบ CBTx มากกว่าจำนวน 8,557 คน โดยมีชุมชนที่ดำเนินการ CBTx อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว 2,346 ชุมชน เน้นที่การบำบัดเพื่อให้ผู้ป่วยไม่หวนกลับไปเสพยาอีก อย่างไรก็ตาม โครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล มีผู้เข้าร่วมบำบัดผ่านระบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จำนวน 12,429 คน คิดเป็น 19.54 คนต่อสถานี มีความร่วมมือของหน่วยงานในการนำผู้เสพที่มีอาการทางจิตเข้าสู่กระบวนการบำบัดกว่า 16,652 คน มีการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม 2,711 แห่ง ซึ่งให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 1,861 คน ส่วนด้านการป้องกัน ได้ดำเนินการจัดระเบียบสังคมในสถานบันเทิง สถานบริการได้ทั้งหมด 991 แห่ง สถานประกอบการคล้ายสถานบันเทิง 3,370 แห่ง รวมทั้งรอบสถานศึกษา 1,253 แห่ง โดยมีการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนทั้งหมด 12,626 แห่ง ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานดังกล่าว และเห็นชอบแนวทางการสำรวจหมู่บ้านและชุมชน (Re X-ray) เพื่อกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมาย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ตามแนวทางธวัชบุรีโมเดล

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเน้นย้ำว่า ความพึงพอใจและความเชื่อมั่นของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการให้เห็นผลที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมครบทุกมิติ อาทิ การสกัดกั้น การป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดผู้เสพยาเสพติด โดยเฉพาะมิติด้านการศึกษา ให้การศึกษา ฝึกอาชีพ เงินทุน แก่ผู้ผ่านการบำบัดรักษาให้มากขึ้น เพื่อที่เวลาออกมาแล้วจะไม่กลับไปใช้ยาเสพติดอีกต่อไป นอกจากนี้ การทำงานด้านยาเสพติดมีความเสี่ยงในทุกรอบด้าน ขอให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการปราบปรามนักค้ายาเสพติด จะต้องยึดหลักกฏหมายเป็นสำคัญ .