“เฉวียนหงฉาน” นักกีฬากระโดดน้ำทีมชาติจีน วัย 17 ปี โผกอด เฉินรั่วหลิน โค้ชผู้ฝึกสอนของเธอทั้งน้ำตา หลังสามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ในรายการแพลตฟอร์มระยะ 10 เมตร (หญิง) เมื่อวันที่ 6 ส.ค. โดยเฉวียนกล่าวว่าตนดีใจกับชัยชนะครั้งนี้มาก ความยากลำบากตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกตื้นตันหลังการแข่งจบลง
เฉวียนโด่งดังหลังจากสามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งประเภทเดียวกันนี้ที่โอลิมปิก โตเกียว โดยตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 14 ปี ทว่าสามารถทำคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยมในการกระโดดน้ำ 3 รอบ จากทั้งหมด 5 รอบ
ผู้คนมักชอบเล่นมุกหยอกล้อว่าเธอเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่มีเวทมนตร์บางอย่าง ที่สามารถทำให้น้ำกระเซ็นหายไปหลังจากกระโดดลงมา และดูเหมือนว่าเธอจะร่ายเวทมนตร์อีกครั้ง ในการกระโดดรอบแรกของรอบชิงชนะเลิศในปารีส หลังสร้างความตะลึงงันให้กับผู้ชมที่ศูนย์กีฬาทางน้ำด้วยการคว้าคะแนนเต็ม 90 คะแนน โดยเฉวียนระบุว่า เธอไม่รู้สึกประหม่าเลยในช่วงก่อนรอบชิง แต่ตั้งแต่เริ่มกระโดดรอบที่ 2 ความรู้สึกประหม่ากลับเริ่มผุดขึ้นมาในใจเล็กน้อย
เฉวียนมักทำผลงานได้ดีกว่าคนอื่นๆ เสมอ แต่เธอกลับรู้สึกถึงความกดดันอย่างหนักจากเฉินอวี่ซี นักกีฬากระโดดน้ำทีมชาติจีน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมและคู่หูที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขันกระโดดน้ำประเภทซิงโครไนซ์ โดยหลังจากทำผลงานในการกระโดดน้ำในรอบที่ 3 ได้ไม่ดี เฉวียนทำคะแนนนำเฉินได้เพียง 1.6 คะแนนเท่านั้น
เฉวียน ระบุว่า เธอให้คะแนนตัวเองแค่ 50 จากคะแนนเต็ม 100 สำหรับผลงานในการแข่งขันล่าสุดนี้ เธอมองว่าตนเองทำผลงานได้ไม่ดีเลย ยกเว้นการกระโดดในรอบแรก แต่แม้เฉวียนจะรู้สึกแบบนั้น เธอยังคงทำได้ดีพอจนป้องกันตำแหน่งแชมป์เอาไว้ได้ โดยมีคะแนนนำเฉินที่อยู่ในอันดับสอง 4.9 คะแนน
เฉวียน เล่าว่า สิ่งที่ยากที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คือการปรับการเคลื่อนไหวในการกระโดดแต่ละครั้ง เพื่อรับมือกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น โดยมีเฉินรั่วหลิน แชมป์โอลิมปิกห้าสมัย ซึ่งกลายมาเป็นผู้ฝึกซ้อมของเธอหลังจบโอลิมปิก โตเกียว คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจอยู่เสมอ
เมื่อสิบปีก่อน เฉวียนเป็นเพียงเด็กสาวที่เล่นกระโดดขาเดียวกับเพื่อนร่วมชั้นในสนามเด็กเล่น แต่ทักษะการกระโดดได้สูงและไกลแม้ว่าจะตัวเล็กของเธอ กลับไปเข้าตาโค้ชเฉินหัวหมิง
“หนูไม่ใช่คนมีพรสวรรค์อะไร” เฉวียนกล่าว “ความสำเร็จทั้งหมดมาจากการฝึกซ้อมซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันอาจแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำตา แต่แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ทำให้หนูมีความสุข”