เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ตึกไทยซัมมิท ทาวเวอร์ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะ สส.อดีตพรรคก้าวไกล และเปิดตัวพรรคประชาชน ถึงการดำเนินการของพรรคต่อไปนี้จะเป็นอย่างไรว่า ตำแหน่งนี้จะว่างลง แต่วันนี้กระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จ เมื่อกระบวนการเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็จะรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กกต.จะต้องนำเอกสารทั้งหมดส่งให้สภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ สภาจะจัดเตรียมรายชื่อพรรคใหม่และบัตรแสดงตนของ สส. ที่สังกัดพรรคใหม่ทั้งหมด รวมถึงหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่ กกต. รับรองเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ต้องเสนอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา รับทราบ คือกระบวนการเสนอให้สภา แต่งตั้งผู้แทนฝ่ายค้านคนใหม่ ส่วนจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเท่าไหร่นั้น ยังไม่แน่ชัด แต่เจ้าหน้าที่สภารับปากว่าจะจัดการให้เร็วที่สุด 

เมื่อถามว่าวิปฝ่ายค้านจะมีการปรับหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ได้ประสานกับเลขาธิการสภาแล้ว และสถานะในการเป็นฝ่ายค้านยังคงเดิมทั้งหมด ปัจจุบัน ตนก็เป็นประธานวิปฝ่ายค้านเหมือนเดิม แต่จะมีการเปลี่ยนหรือไม่นั้น จะต้องมีการประชุม สส.อีกครั้ง และทุกอย่างไม่มีปัญหา การประชุมยังคงต้องเดินหน้าต่อไป 

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่จะมีการตรวจสอบ สส.อดีตพรรคก้าวไกล 44 คนที่ลงชื่อเสนอร่างกฎหมายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ภายในพรรคได้พูดคุยถึงเรื่องนี้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า มีการเตรียมการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ไม่มีความหวั่นไหวใดๆ สู้เต็มที่แล้วมั่นใจ

เมื่อถามว่าตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 1 ยังเป็นของพรรคฝ่ายค้านอยู่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การเลือกรองประธานสภา เป็นการเลือกตั้งของ สส. ไม่ใช่โควตาของพรรคใดพรรคหนึ่ง ในวันที่มีการเลือกตั้งใหม่การลงคะแนนเสียงส่วนใหญ่จะเลือกคะแนนให้กับผู้ที่ได้รับตำแหน่ง ส่วนภายในพรรคจะต้องให้กรรมการบริหารพรรคพูดคุยกันก่อน  

เมื่อถามอีกว่ากังวลต่อกรณีที่จำนวน สส.ตอนนี้ลดลง จะส่งผลต่อสัดส่วนตำแหน่งกรรมาธิการสามัญในสภาหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรายังคงมีพรรคการเมืองที่มี สส.มากที่สุดในสภา ดังนั้น โควตาต่างๆ เทียบเท่ากับพรรคเพื่อไทย โควตาจึงยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แม้แต่ตำแหน่งประธาน กมธ.หรือกมธ.วิสามัญที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงเหมือนเดิม แม้สัดส่วนของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจะเท่ากัน