เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สำนักงานกำลังพลร่วมแสดงความยินดีและภาคภูมิใจในข้าราชการตำรวจทั้ง 7 นาย ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีนี้ ข้าราชการตำรวจทั้ง 7 นาย ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถที่โดดเด่น ทั้งในหน้าที่การงานและวงการกีฬา ซึ่งนับเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งที่พวกเขาได้เป็นตัวแทนของประเทศในการแข่งขันกีฬาระดับโลก มีใครกันบ้าง

1.ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (วิว) ผบ.หมู่ ฝอ.บก.ป. ได้รับรางวัลเหรียญเงินในประเภทแบดมินตันชายเดี่ยว ซึ่งเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจและเป็นประวัติศาสตร์ของแบดมินตันไทยในรอบ 32 ปี นับตั้งแต่ถูกบรรจุเข้าไปในกีฬาโอลิมปิก

2.ส.ต.ต.หญิง รัชนก อินทนนท์ (เมย์) ผบ.หมู่ ฝ่ายฝึกอบรม ศฝร.บช.ก. โอลิมปิกปีนี้ น้องเมย์ได้เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายในประเภทแบดมินตันหญิงเดี่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความพยายามที่ไม่มีที่สิ้นสุด

3.ส.ต.ท.หญิง ใบสน มณีก้อน (ครีม) ผบ.หมู่ ฝอ.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายในประเภทมวยสากลหญิง รุ่น 75 กิโลกรัม เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของวงการกำปั้นไทย และทำให้เห็นถึงความเป็นนักสู้ในตัวเธอ

4.ส.ต.ท.ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด (เหลิม) ผบ.หมู่ ฝอ.ภ.จว.พิษณุโลก ได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายในประเภทมวยสากลชาย เช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามและการเตรียมพร้อมที่ดีเยี่ยม

5.ส.ต.ท.วีระพล จงจอหอ (เกมส์) ผบ.หมู่ ฝอ.ภ.จว.นครราชสีมา ได้เข้ารอบ 32 คนสุดท้ายในประเภทมวยสากลชาย รุ่น 80 กิโลกรัม มีความมุ่งมั่นและทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง จนสามารถคว้าตั๋วไปโอลิมปิกได้สำเร็จ

6.ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง สุเบญรัตน์ อินแสง (เบญ) รอง สว.ฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ สก. ได้อันดับที่ 32 ในกีฬากรีฑาประเภทขว้างจักรหญิง ขว้างได้ดีที่สุดที่ 58.07 เมตร ทำให้เห็นความสามารถทางกายภาพและการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อโอลิมปิกในครั้งนี้

7.ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง สุธาสินี เสวตรบุตร (หญิง) รอง สว.ฝอ.1 บก.อก.บช.ก. ลูกเด้งสาวไทย ได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในประเภทเทเบิลเทนนิส ถือว่าเป็นนักเทเบิลเทนนิสผู้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นของความมุ่งมั่นในการไล่ตามความฝัน

สำหรับข้าราชการตำรวจเหล่านี้ได้สร้างความภาคภูมิใจและเกียรติยศให้กับประเทศไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานกำลังพลพร้อมที่จะดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับนักกีฬาตำรวจทุกนายที่เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และสร้างความสุขให้กับคนไทยทุกคน และยังคงสนับสนุน ส่งเสริมศักยภาพของข้าราชการตำรวจในการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีและนำชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศชาติในอนาคต