เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ร.ต.อ.ดำฉลวย สำคัญยิ่ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวอยู่ภายในห้องน้ำคอนโดฯ แห่งหนึ่งใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลบางละมุง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวหน้าตาดีชาวลาว อายุ 28 ปี นอนหงายจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ ที่ลำคอมีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่คล้ายกับรอยถูกของมีคมปาด เสียชีวิตมาประมาณ 12 ชม. ที่มือด้านขวาของศพพบมีดทำครัวขนาดใหญ่ 1 เล่ม และมีดปอกผลไม้ปลายแหลมยาวประมาณ 15 ซม. วางอยู่ในอ่างล้างมือ บริเวณหน้าห้องน้ำพบรอยเท้าขนาดใหญ่ เปื้อนเลือดเหยียบย้ำอยู่ อีกทั้งยังพบแมวอยู่ในห้องอีก 1 ตัว

เพื่อนของคนตาย ให้การว่า ก่อนหน้านี้พี่สาวของผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกให้ช่วยมาดูน้องสาวที่ห้องหลังติดต่อไม่ได้ แต่เมื่อเดินทางมาถึงพบว่าประตูถูกล็อกจากด้านใน ประกอบกับแฟนหนุ่มของผู้ตายซึ่งเป็นชาวจีน อายุ 42 ปี ก็เข้าห้องไม่ได้เช่นกัน โดยแฟนชาวจีนของผู้ตาย บอกว่า ถูกผู้ตายไล่ออกจากห้อง จากนั้นก็เข้าห้องไม่ได้อีกเลย เมื่อเห็นท่าไม่ดีตนจึงตัดสินใจแจ้งกับทางนิติคอนโด ก่อนจะว่าจ้างช่างกุญแจมาเปิดประตู พอเปิดประตูได้ แฟนของผู้ตายก็เดินเข้าไปในห้องก่อนจะวิ่งออกมาในสภาพหน้าตาตื่นพร้อมกับพูดว่า “เธอตายแล้ว” จากนั้นจึงรีบโทรแจ้งตำรวจดังกล่าว จากนั้นแฟนหนุ่มชาวจีนได้หายตัวไป แต่ยังสามารถโทรศัพท์ติดต่อได้อยู่ โดยใช้เหตุผลว่าไม่กล้าอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุเพราะวีซ่าขาด

ต่อมาตำรวจได้ติดตามตัวแฟนหนุ่มชาวจีนมาสอบถามข้อมูลในเบื้องต้น ซึ่งเจ้าตัวยังอยู่ในอาการตกใจกลัว รวมถึงกลัวถูกจับกุมในข้อกล่าวหา อยู่ในราชอาณาจักรเกินที่กำหนด (โอเวอร์สเตย์) โดยให้การกับตำรวจว่า คบหากับผู้ตายได้ประมาณ 3 ปี โดยช่วง 1 ทุ่มวันที่ 7 ส.ค. ขณะที่ตนนอนอยู่ในห้องพัก จากนั้นแฟนสาวได้กลับเข้ามาในห้องและมีอาการคล้ายคนเมา พร้อมกับพูดจาโวยวายว่า “มีผีตามมาฆ่า” และไล่ตนเองออกจากห้อง พอตอนเดินออกจากห้องแฟนสาวก็ปิดประตูล็อค พยายามเคาะประตูเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิด ตนจึงไปนอนบ้านเพื่อนจนกระทั่งก่อนพบศพได้โทรศัพท์ตามเพื่อนของแฟนสาวให้เข้ามาช่วยดู แต่ประตูถูกล็อกจากด้านในจึงจ้างช่างกุญแจมาเปิดก่อนจะพบแฟนสาวเป็นศพอยู่ภายในห้องน้ำ

พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นได้สั่งการให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานทำการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ผู้ตายเสียชีวิตเพราะถูกกระทำให้ตาย หรือ ทำร้ายตัวเองจนถึงแก่ความตาย โดยตำรวจขอเวลาทำงาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยจะต้องพาแฟนหนุ่มชาวจีนไปทำการสอบสวนอย่างละเอียด แต่เบื้องต้นพบว่าแฟนหนุ่มชาวจีน ลักลอบอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินเวลากำหนด ซึ่งโอเวอร์สเตย์มา 4 ปี จากนั้นจะอายัดตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป