เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการดำเนินการช่วยเหลือ 6 ตัวประกันชาวไทยที่ยังถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวนานกว่า 10 เดือนแล้วว่า กระทรวงการต่างประเทศพยายามหาช่องทางประสานงานกับหลายประเทศเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน โดยเมื่อวันที่ 20-25 ก.ค.ที่ผ่านมา ตน และนายดุสิต เมนะพันธุ์ ที่ปรึกษารมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางไปยังประเทศอียิปต์ อิสราเอล และกาตาร์ เพื่อขอให้ประเทศเหล่านี้ช่วยเจรจากับกลุ่มฮามาสให้ปล่อยตัวคนไทย โดยที่อียิปต์ ตนและคณะได้พบกับนาย Ismail Khairat, Assistant Minister of Foreign Affairs for Consular Affairs and Egyptian Expatriates และนาย Ahmed Shaheen, Assistant Minister of Foreign Affairs for Asia-Pacific, Australia and New Zealand Affairs ส่วนที่อิสราเอลได้พบกับนายอิสราเอล คัตซ์ รมว.ต่างประเทศอิสราเอล และที่กาตาร์ ได้พบกับ Dr. Mohammed bin Abdulaziz Al-Khulaifi รัฐมนตรีแห่งรัฐด้านกิจการต่างประเทศรัฐกาตาร์
นายรัศม์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยโดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างมากกับการเร่งช่วยเหลือคนไทยทั้ง 6 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเรื่องนี้เร็วที่สุด สำหรับการหารือกับ 3 ประเทศดังกล่าวได้พูดถึงสถานการณ์ล่าสุดในตะวันออกกลาง และขอบคุณที่ประเทศเหล่านี้พยายามช่วยเหลือในการช่วยประสานนำตัวประกันออกมาได้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ เรายังขอให้ประเทศเหล่านี้ช่วยเหลือตัวประกันที่เหลืออยู่อีก 6 คน ซึ่งเขาให้คำมั่นว่า ยังคงหาทางช่วยเจรจาเพื่อให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวคนไทยออกมาให้หมด แต่ยังพบว่ามีปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันของประเทศคู่กรณี และจำเป็นต้องให้มีการหยุดยิงตอบโต้กันระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮามาสก่อน เพราะถ้ายังไม่มีการหยุดยิง แล้วมีการปล่อยตัวประกันออกมา จะทำให้คนเหล่านั้นได้รับอันตราย
นายรัศม์ กล่าวว่า ในการหารือกับฝ่ายอิสราเอลนั้น เราได้ขอให้รัฐบาลอิสราเอลดูแลความปลอดภัยของแรงงานไทย และขอไม่ให้ส่งคนไทยไปทำงานในพื้นที่ชายแดนที่เสี่ยงเกิดเหตุโจมตี หรือพื้นที่สีแดง ซึ่งรัฐบาลอิสราเอลรับปากดูแลคนไทยให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และอิสราเอลยังต้องการเปิดรับแรงงานไทยเข้ามาเพิ่ม แม้แรงงานไทยที่อพยพกลับประเทศไทยช่วงเกิดเหตุโจมตีเมื่อปี 2566 ขณะนี้ได้เข้าไปทำงานอิสราเอลแล้วประมาณ 30,000 กว่าคน ซึ่งตนคาดว่ากระทรวงแรงงานจะพูดคุยกับฝ่ายอิสราเอลต่อไปในเรื่องการรับแรงงานไทยเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งคนไทย เรายังพยายามเร่งดำเนินการช่วยเหลือให้คนไทยทั้ง 6 คนออกจากฉนวนกาซา และขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งหมดหวัง ขณะเดียวกัน รัฐบาลมอบหมายให้ที่ปรึกษารมว.ต่างประเทศเดินทางไปเยี่ยมเยียนครอบครัวของตัวประกันชาวไทย ทั้ง 6 ราย เพื่อชี้แจงถึงขั้นตอนต่างๆที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือคนไทยกลุ่มนี้ให้ได้กลับมาสู่ประเทศไทย
