“ไหม ศิริกัญญา- เท้ง ณัฐพงษ์” คู่ชิงเก้าอี้ผู้นำพรรคสีส้ม

9 สิงหาคมถือเป็นวันสำคัญของพรรคการเมืองน้องใหม่ที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายที่จะเข้ามาสืบสานอุดมการณ์จาก “พรรคก้าวไกล(ก.ก.)” หลังถูกยุบพรรคตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ที่ต้องจับตาคือ จะมีใครเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) หลังก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า ยืนยันหัวหน้าพรรคคนต่อไปจะเป็นผู้นำหญิง “น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล” สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตรองหัวหน้าพรรคก.ก. โดยมี “เท้ง” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ “สส.บัญชีรายชื่อ” เป็นคู่ชิง เนื่องจากเป็นที่ยอมรับของ สส.หลายคน และเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทํางานในสภาของพรรคก.ก. ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการนำทัพทีมเบื้องหลัง กลุ่มก้าว Geek ต้องจับตาดูจะเป็นไปอย่างที่รายงานข่าวระบุหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีเผยแพร่ข่าวผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์พรรค ว่า สส. ซึ่งถูกยุบพรรคไปตามคำวินิจฉัยของศาลรธน. เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้สมัครสมาชิกพรรคใหม่เรียบร้อยแล้วเกือบครบ 100% โดยในวันที่ 9 ส.ค.นี้ ต้องรอดู สส. ทั้ง 143 คน จะเดินทางไปร่วมประชุมพรรคใหม่ ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ถ.เพชรบุรี ร่วมกับสมาชิกและทีมงานเครือข่ายพรรคทั่วประเทศ เพื่อร่วมกำหนดตัวผู้บริหารและทิศทางการทำงานของพรรคต่อไปกันครบหรือไม่ โดยภายในเวลาประมาณ 12.00 น. จะมีการแถลงเปิดตัวพรรค และกก.บห.ชุดใหม่อย่างเป็นทางการ และเปิดให้ประชาชนทั่วไปสมัครสมาชิกพรรค รวมถึงบริจาคเงินได้ในเวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทางระบบออนไลน์

หลังจากนั้นในวันเสาร์ที่ 10 ส.ค. 2567 จะมีการจัดกิจกรรมรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่เป็นครั้งแรก พร้อมพบปะกับ สส. สก. และผู้บริหารพรรคชุดใหม่ ณ Stadium One ถ.บรรทัดทอง กทม. ส่วนกรรมการบริหารพรรคก.ก.ไกลเดิม จะร่วมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ราชบุรี ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.ย.นี้

โดยมีพรรคที่เป็นรังใหม่พรรคเดิม คือ พรรคถิ่นกาขาว ชาววิไล ส่วนที่ยังเป็นปัญหาคือการเลือกกก.บห. เนื่องจาก สส.ในพรรคส่วนใหญ่ กังวลว่าจะมีจุดจบแบบเดียวกับรุ่นพี่ หากก้าวขึ้นเป็นกก.บห. อาจมีเหตุให้ถูกร้องและตัดสิทธิในเวลาต่อมา จึงทำให้แทบไม่มีคนอาสาขึ้นมาทำหน้าที่ โดยมีการพูดติดตลกกันว่า “ใครเชียร์เพื่อนให้เป็นกก.บห.เท่ากับแช่ง” แต่ที่น่าสนใจคือ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก.ก. ระบุว่า เห็นหลักฐานการซื้องูเห่า มีทั้งให้เงินและตำแหน่ง คำถามคือ พรรคการเมืองไหนที่อยากตกปลาในบ่อเพื่อน

ขณะที่วิบากกรรมของอดีตสส. พรรคก.ก. ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็ยังไม่จบสิ้น หลัง “นายธีรยุทธ สุวรรณเกสร” ทนายความอิสระในฐานะผู้ร้องคดีล้มล้างการปกครองฯ เปิดเผยว่า  สัปดาห์หน้าจะเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช. ) เพื่อยื่นเอกสารการแกะเทปคำวินิจฉัยกลางดังกล่าว เพื่อให้ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไต่สวนเอาผิดอดีตสส.พรรคก.ก. 44 คน ที่ร่วมกันลงชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 เข้าสภา หลังจากเคยไปยื่นคำร้องไว้ที่ ป.ป.ช.เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่คดียังไม่คืบหน้า เท่ากับว่าตอนนี้มีคำวินิจฉัยของศาล รธน.ถึง 2 คดี คือคดีล้มล้างการปกครอง และคดียุบพรรคก.ก. โดยหาก ป.ป.ช.ชี้มูล ทั้ง 44 คนก็จะต้องส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาต่อไป

ในรายชื่อ 44 สส.มีชื่อ “น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล” ที่มีข่าวว่าจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ในพรรคการเมืองที่จะขึ้นมาแทนก.ก. และจะถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในการเลือกตั้งรอบหน้า รวมถึง “นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ที่มีข่าวว่าอาจจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ หรือเลขาธิการพรรค ก็มีชื่อด้วยเช่นกัน อาจกลายเป็นปมร้อนที่ทำให้เกิดปัญหาพรรคที่จะตั้งขึ้นใหม่ในอนาค
 
นอกจากนี้ “นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ส่งหนังสือ ด่วนที่สุด ทางไปรษณีย์อีเอ็มเอส เพื่อขอให้ป.ป.ช. รีบดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจด้วยการขอคัดสำเนาคำวินิจฉัย ในสำนวนคดีทั้งจากศาลรัฐธรรมนูญมาถือเป็นพยานหลักฐานในสำนวนไต่สวนของ ป.ป.ช. ตามนัยมาตรา 235 วรรคหนึ่ง ประกอบนัยมาตรา 234 วรรคหนึ่ง (1) และรีบส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยตามรธน. มาตรา 235 วรรคหนึ่ง (1) ต่อไปว่า ส.ส.พรรคก.ก. จำนวน 44 คน มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือไม่

ขณะที่ “นายนิวัติไชย เกษมมงคล” เลขาธิการเลขาฯ ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบจริยธรรม 44 สส.อดีตพรรคก.ก. ที่เข้าชื่อเพื่อแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา112 ว่า ได้นำเสนอคณะกรรมการป.ป.ช.แล้ว และมีมติการตรวจสอบมีมูลเบื้องต้น มีพยานหลักฐานตามแนวความคิดเห็นของศาลรธน. คณะกรรมการป.ป.ช.ก็มีมติสั่งไต่สวนทั้ง 44 สส. ยังไม่ได้ให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการเปิดให้ผู้ต้องหาชี้แจงต่อไป เมื่อถามว่าระยะเวลาการพิจารณาจะยาวนานหรือไม่ เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะนาน เพราะข้อเท็จจริงก็ปรากฏครบถ้วน อยู่ที่การวินิจฉัยในข้อกฎหมาย และเจตนา แต่หากเราจะใช้คำวินิจฉัยล้วนๆ ก็อาจจะไม่เป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา เมื่อถามว่าการเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา112 ถือว่าเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่าหากเป็นความผิดทางอาญา ก็อาจเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง

ด้าน “นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ” กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า ในการไต่สวนต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ต้องให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งคุณและโทษ ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสชี้แจงเต็มที่ และไม่ได้ละเลยคำวินิจฉัยของศาลรธน.ยืนยันว่าคณะกรรมการไต่สวนไม่มีอคติ ยึดบนข้อเท็จจริงกฎหมาย แต่จะเอารวดเร็วดั่งใจไม่ได้ การล่าช้าเป็นการปฏิเสธความยุติธรรม แต่ถ้ารวบรัดเกินไปความเป็นธรรมก็อาจจะไม่เกิด พร้อมย้ำว่า ไม่มีใบสั่งจากไหน หรือเข้าข้างพรรคการเมืองฝ่ายใด เราอยู่ในฝั่งที่เป็นกลาง และให้โอกาสทุกฝ่าย ไม่มีเข้าข้าง และไม่มีใครมาสั่งตนได้

นั่นหมายความว่า วิบากกรรมของอดีตสส. พรรคก.ก.ยังไม่จบไม่สิ้น ต้องมาดูผลพวงจากการตรวจสอบของป.ป.ช. กรณี 44 สส. ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขกฎหมายกฎหมายอาญา 112 ต้องเผชิญบทลง กลายเป็นดาบสาม ที่ฟาดกระหน่ำลงมาหรือไม่

ส่วนสถานภาพของ “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี  ซึ่งต้องลุ้นวันที่ 14 ส.ค. ศาลรธน.จะวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา จะสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ กรณีนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “นายพิชิต ชื่นบาน” เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรธน.

ดูเหมือนมีสัญญาณบางอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของหัวหน้ารัฐบาล ที่จะผ่านกระบวนการตรวจสอบครั้งนี้ หลัง “นายชัย วัชรงค์” โฆษกประจำสำนักนายกฯ ออกมาเปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มีกำหนดการตรวจราชการภาคเหนือ-กลาง-อีสาน ระหว่างวันที่ 15 – 19 ส.ค. และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 5/2567 ในวันที่ 20 ส.ค. 2567 จากนั้นลงพื้นที่ต่อเนื่องตั้งแต่ 21- 31 ส.ค.เพื่อติดตามงานตามนโยบายรัฐบาล

ถ้าหากหัวหน้ารัฐบาลผ่านกระบวนการตรวจสอบครั้งนี้ไปได้ การเมืองก็จะไม่มีแรงกระเพื่อม นโยบายเรือของรัฐบาล เงินหมื่นภายใต้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็จะไม่มีสะดุดเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ประชาชนจะได้เงินหมื่นประมาณปลายปี 67

“ทีมข่าวการเมือง”