เมื่อวันที่ 8 ส.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.6 และ สน.ปทุมวัน ร่วมกันจับกุมตัว นายปรีดา อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 594/2567 ลงวันที่ 8 ก.ค. 67 ข้อหา ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป พร้อมของกลางเงินสด 9,850,000 บาท และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 74 แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 67 นายปรีดา อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาเป็นลูกจ้าง ขี่ จยย. พานางพิมพ์เดือน อายุ 68 ปี เจ้าของธุรกิจแลกเงิน ผู้เสียหายซึ่งเป็นนายจ้างไปถอนเงินสดจากธนาคารสาขาต่างๆ จำนวน 5 ธนาคาร รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาท ต่อมาผู้เสียหายได้ไปถอนเงินสดที่ธนาคารในศูนย์การค้ามาบุญครอง โดยได้ฝากเงิน 10 ล้านบาท ไว้กับผู้ต้องหาที่จอดรอด้านหลังตึกมาบุญครอง จากนั้นผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์เอาเงินจำนวน 10 ล้านบาทนั้นหลบหนีไป กระทั่งชุดสืบสวน บก.น.6 และ สน.ปทุมวัน เข้าจับกุมตัวไว้ได้

ขณะที่นางพิมพ์เดือน ผู้เสียหายและครอบครัว ได้เดินทางไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อขอรับเงินของกลางคืน พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งน้ำตา ที่สามารถติดตามจับกุมและนำเงินมาคืนได้เกือบทั้งหมด ทำให้ตนเองรู้สึกโล่งใจ เพราะที่ผ่านมากินไม่ได้ นอนไม่หลับ เครียดที่ต้องสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก เพราะความไว้ใจลูกจ้างที่ทำงานด้วยกันมานานเกือบ 20 ปี เหมือนครอบครัวเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมา เวลาตนเองต้องการไปเบิกถอนเงิน ก็มักจะให้ลูกจ้างคนนี้ ขี่รถจักรยานยนต์พาไปด้วยกัน 2 คนเสมอ แต่จำนวนเงินไม่มากเท่าครั้งนี้ จึงไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่ครั้งนี้เงินจำนวนมาก อีกฝ่ายคงฉวยโอกาสลักทรัพย์เงินหลบหนีไป จึงอยากฝากเตือนผู้ประกอบการทุกคนอย่าไว้วางใจลูกจ้าง

ด้าน พ.ต.ท.แดนชัย ทูลอ่อง รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ผลการสอบปากคำ นายปรีดา ให้การว่า ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ โดยเงินจำนวนที่หายไปอีก 150,000 บาท ได้นำไปซื้อรถจักรยานยนต์ 2 คัน รวมราคา 70,000 บาท ส่วนเงินอีก 80,000 บาท ที่เหลือ นำไปเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวตลอดระยะเวลาที่หลบหนี ส่วนเงินที่ยึดมาได้ นายปรีดาได้มีการสลับกระเป๋าจากกระเป๋าสีรุ้ง ไปใส่กระเป๋าหูหิ้วสีดำ และเก็บไว้กับตัวตลอดเวลา ไม่ได้มีการนำเงินไปซุกซ่อน และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก็ไม่พบว่าเคยก่อเหตุใดๆ มาก่อน และไม่พบว่าติดการพนัน ยาเสพติด หรือติดผู้หญิง แต่จะเป็นมูลเหตุจูงใจนำเงินไปใช้จ่าย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมนำตัวนายปรีดา ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังในข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากจำนวนเงินที่ลักไปมีมูลค่าสูง ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.