จากนั้นเวลา 11.10 น. วันที่ 8 ส.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางมายังศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เพื่อเยี่ยมชมการบริหารจัดการช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากในพื้นที่ทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกฯ ใช้รถยนต์โต้โยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน ขง 4477 ภูเก็ต
โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางถึง ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ภาพรวมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร และดูเต่ากระ เต่าตนุ เต่าหญ้า ที่บาดเจ็บจากขยะในทะเลประมาณ 40% โดยมีสัตวแพทย์ อธิบายถึงการรักษา ซึ่งนายกฯ ได้สอบถามถึงปัญหาเศษขยะที่อยู่ในทะเล ที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสัตว์ทะเล ว่าเป็นขยะประเภทไหน โดยสัตวแพทย์แจ้งว่าส่วนใหญ่จะเป็นขยะในทะเลทั่วไป ขยะมาจากกิจกรรมทำการประมง รวมถึงพลาสติกต่างๆ ซึ่งสร้างความเสียหายจากการเสียดสี ขูดขีดและเป็นรอยถลอก โดยเฉพาะเต่าที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก
ต่อมานายกฯ ยังได้เยี่ยมชมบ้านพักของเจ้าหน้าที่ โดยบอกว่ารัฐบาลมีความเป็นห่วงเป็นใยข้าราชการ โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณบ้านพักให้กับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ขณะเดียวกัน รมว.ยุติธรรม ก็บอกว่ากรมราชทัณฑ์ก็มีพนักงานที่อยู่ตรงนี้ จึงอยากให้มีการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งวันนี้ตนมาดูเพื่อให้เกิดความสะดวก ที่อยู่อาศัยถือเป็นเรื่องสำคัญ เท่าที่เห็นบ้านพักเก่ามากแล้ว วันนี้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไป การที่เราต้องสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาด้วย เรื่องที่อยู่อาศัยของข้าราชการเป็นเรื่องสำคัญ ที่นี่อยู่กันร้อยกว่าครอบครัว อยากให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยจ่ายในอัตราที่เหมาะสม เพื่อให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น สิ่งสำคัญคือกฎที่อยู่อาศัย จะต้องดูแลกันให้ดี เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้ ตรงนี้จึงขอฝากไว้เป็นนโยบาย ทุกอย่างต้องค่อยๆ ทยอยทำ เพื่อเป็นตัวอย่าง ย้ำตรงนี้เราให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ข้าราชการ จะได้ไม่ขาดแคลนบุคลากรที่อยากจะเข้ามารับใช้ประเทศชาติ เพื่อให้เขามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เสมอภาคเท่าเทียมกัน คนที่หลังมาอยู่วันข้างหน้าจะลำบาก ตรงนี้ขอความกรุณาด้วย ขอให้เร่งดำเนินการ
จากนั้นนายกฯ ยังได้ดูโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ โดยนายกฯ กล่าวว่า อยากให้สร้างการเรียนรู้ว่าเต่าและสัตว์ทะเลที่เจ็บป่วย 40% เกิดจากขยะ ตรงนี้ต้องสร้างจิตใต้สำนึกให้คนทราบด้วย ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นโครงการดีๆ ควรจะต้องสอดแทรกความรู้เข้าไปด้วย โดยโครงการดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในฐานะองค์อุปถัมภ์ ดูแล้วน่าประทับใจ และหลายๆ อย่างถ้าเราไม่มาดูกันเองเราก็จะไม่ทราบ เช่น เต่าทะเลไม่ทราบเลยว่า 40% ของเต่าและสัตว์ทะเลที่บาดเจ็บ เสียชีวิต เกิดมาจากขยะทั้งนั้น
นายกฯ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ในส่วนของบ้านพักข้าราชการ จริงๆ แล้วข้าราชการที่อยู่ที่นี่มีประมาณ 80-100 กว่าครอบครัว ในหลายมิติเราอาจมองข้าม การเข้าสู่ระบบราชการ ตอนหลังไปภาคเอกชน เพราะมีผลตอบแทนที่ดีกว่า ข้าราชการปิดทองหลังพระอย่างองค์กรนี้ต้องอยู่ที่นี่ ไปอยู่ที่อื่นไม่ได้ เมื่ออยู่ที่นี่ การเดินทางก็ลำบาก ฉะนั้นการสร้างที่อยู่อาศัยให้กับพนักงานถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งที่อยู่อาศัยตรงนี้มีมา 40-50 ปีแล้ว เช่นเดียวกับหลายพื้นที่ที่ตนลงไป ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร พยาบาล รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับสวัสดิการของข้าราชการ ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ
ต่อมา นายกฯ เป็นประธานการประชุมพิจารณามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดินโคลนถล่ม ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบน (ภูเก็ต) ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดยนายกฯ กล่าวว่า เรื่องการป้องกันดินโคลนถล่มได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาต่างๆ ถือเป็นปัญหาที่ใหญ่พอสมควร ซึ่งการประสานงานกับทุกหน่วยงานสำคัญ เช่น กระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง จึงขอสั่งการทางผู้ว่าราชการจังหวัดประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดี อธิบดีกรมชลประทาน ก็ได้มีการเสนอแผนงานมาแล้ว ต้องทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ให้ดี อธิบายให้ฟังว่าประเด็นคืออะไร รวมถึงพื้นที่สีแดงที่มีความเสี่ยงสูง ที่เราเห็นในแผนที่ภูเก็ตมี 3 พื้นที่ เพราะตอนนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว เป็นช่วงอันตรายที่เราต้องดูแลกันต่อไป และให้กรมทรัพยากรธรณี ติดตั้งอุปกรณ์แจ้งเตือนภัย มีการซักซ้อม เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกครัวเรือน ทั้งปัญหาน้ำป่า ภัยพิบัติ และดินโคลนถล่ม พร้อมกันนี้ ให้ร่วมกันออกแบบการเฝ้าระวังและเตือนภัย ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่อื่นที่เป็นพื้นที่สีแดง โดยใช้ข้อมูลทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพราะความเป็นอยู่ของประชาชน และเรื่องสำคัญไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก.