ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น ชิงนายก อบต.-ส.อบต. ระหว่างวันที่ 11-15 ต.ค. 64 ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอโดยมอบให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณากรอบระยะเวลาที่เหมาะสม โดยกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 28 พ.ค. 64 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยในพื้นที่ จ.นครพนม เป็นไปอย่างคึกคักไม่แพ้จังหวัดใหญ่ๆ ทาง กกต.นครพนม ได้ให้ อบต.ในแต่ละที่เปิดรับสมัคร นายก อบต. และ ส.อบต.ที่หมดวาระลงตามกฎหมาย 81 แห่ง ในพื้นที่ 12 อำเภอ

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้สมัครนายก อบต. ทั้งแชมป์เก่าหรืออดีตแชมป์ ผู้สมัครหน้าใหม่หน้าเก่า ส่วนใหญ่จะเป็นคนในสังกัด หรือคนสนิทของนักการเมืองระหว่าง 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย เป็นการชิงฐานเสียงการเมืองท้องถิ่น ที่จะเป็นการต่อยอด สร้างฐานคะแนนในการเลือกตั้งสนามใหญ่ของผู้แทนราษฎรในสมัยหน้า โดยกระแสพรรคเพื่อไทยยังคงมาแรง เนื่องจากพื้นที่ จ.นครพนม เป็นฐานที่มั่นอีกแห่งของพรรคเพื่อไทยมายาวนาน ตั้งแต่เป็นพรรคความหวังใหม่ ก่อนจะยุบรวมกับพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน กระทั่งมาเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน

จากการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา มีการแบ่งเขตเลือกตั้งรวม 4 เขต พรรคเพื่อไทยกวาด ส.ส.ได้ 3 เขต ส่วนพรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส. 1 เขต และยังได้รับกระแสต่อต้านกรณีไปร่วมรัฐบาล เนื่องจากในช่วงหาเสียงประกาศว่าจะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการเลือกตั้งชิงนายก อบต. และ ส.อบต.ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการชี้วัดถึงคะแนนนิยมของทั้ง 2 พรรคใหญ่ ที่อาจจะมีผลต่อการเลือกตั้งสนามใหญ่สมัยหน้า ทั้งนี้ ทาง กกต.นครพนม เผยเบื้องต้นว่า พรรคการเมืองสามารถสนับสนุนผู้สมัครได้ในนามพรรคได้ แต่ผู้แทนและเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถที่จะช่วยหาเสียงได้ ถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง

นายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผอ.กกต.นครพนม เปิดเผยว่าการ เลือกตั้ง นายก อบต. และ ส.อบต. ในพื้นที่ จ.นครพนม หมดวาระลงรวม 81 แห่ง เปิดรับสมัครเลือกตั้งระหว่างวันที่ 11-15 ต.ค.64 โดยตั้งแต่การรับสมัครวันแรกถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีการวางมาตรการควบคุมโรคโควิดทุกจุด มั่นใจ กกต.มีความพร้อมในการรับสมัครทุกแห่ง สิ่งสำคัญฝากไปยังผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่ง ทั้ง นายก อบต. และ ส.อบต. จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ห้ามหาเสียงด้วยวิธีการรื่นเริง รวมถึงการซื้อสิทธิขายเสียง

ในส่วนของพรรคการเมืองสามารถให้การสนับสนุนได้ในนามพรรค แต่จะต้องได้รับอนุญาตจากทางกรรมการบริหารพรรค ในการสนับสนุนผู้สมัคร แต่ในส่วนของนักการเมืองที่มีตำแหน่ง รวมถึงผู้แทนหรือ ส.ส. ไปจนถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่สามารถที่จะช่วยหาเสียงได้ เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้ง ฝากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตรวจสอบข้อมูลรายชื่อสิทธิการเลือกตั้ง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 28 พ.ค.64 หากมีความจำเป็นไม่สามารถที่จะไปใช้สิทธิได้ จะต้องแจ้งเหตุผลต่อนายทะเบียนก่อนหรือหลัง 7 วัน จะได้ไม่เสียสิทธิ