เมื่อวันที่ 7 ส.ค.67 ที่ลานหน้าพรรคก้าวไกล ในช่วงค่ำมีการจัดกิจกรรมปราศรัยของแกนนำ และ สส.พรรคก้าวไกล หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดียุบพรรค มีมวลชนผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลสวมเสื้อและสัญลักษณ์สีส้มพรรคก้าวไกลเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่ ซึ่ง สส.ของพรรคได้สลับสับเปลี่ยนกันปราศรัยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ น.ส. ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยตอนหนึ่งว่า  พูดกี่ทีมันก็ยังเจ็บอยู่ในหัวใจ พูดอีกทีมันก็ยังคับแค้นอยู่ ถึงแม้เดินขึ้นมาบนเวทีจะเห็นรอยยิ้มของพี่น้องประชาชน เหมือนท่านจะคลายกังวลกันได้ แต่พูดคำว่าก้าวไกลกี่ครั้งมันก็ยังแค้นเข้าไปในหัวใจ เพราะนี่เป็นการถูกยุบพรรคในชีวิตของตนเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ใครชินxูไม่ชิน มันเหมือนผู้มีอำนาจในประเทศนี้ มันคิดว่าประชาชนคิดเองไม่ได้ ต้องคอยมาบอกว่าประชาชนต้องทำอย่างไร ต้องคอยมาบอกว่าต้องทำอย่างไร ผู้นำของเราหน้าควรจะเป็นแบบไหน คอยมาบอกเราว่าผู้นำของเราหน้าตาควรจะเป็นแบบไหน ควรมาบอกเราว่าพรรคการเมืองที่ดีมันควรจะต้องเป็นอย่างไร คอยมาบอกเราว่าเราขีดชะตาชีวิตตัวเราเองไม่ได้และไม่สามารถกำหนดอนาคตของเราเองได้

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า แต่จริงๆ แล้ว เรากำหนดเองได้ใช่หรือไม่  วันนี้มีแต่ประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของพวกเรา และบอกว่าพวกเราจะทำอะไรต่อ เพราะประชาชนมอบอำนาจให้เรามาเมื่อปีที่แล้ว จากนี้ต่อไปจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว วันนี้เราจะแปรความแค้น ความเจ็บ ความโกรธเพื่อสู้ต่อ ส่งเสียงให้ดังถึงผู้มีอำนาจ ว่าใครกันแน่คือผู้มีอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ซึ่งก็คือประชาชน ถึงเราจะเสียใจแค่ไหนให้เราฮึบเอาไว้ ส่งแรงนี้ไปสู่พลังในครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งซ่อมที่จ.พิษณุโลก และเลือกนายกอบจ.เพื่อส่งสัญญาณให้ผู้มีอำนาจรู้ว่าตอนนี้ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น ศึกของเรายังยาวไกล อย่าเพิ่งรีบ และวันหนึ่งวันนั้นมันก็จะเป็นวันของเราที่ประชาชนมีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินนี้

ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจะมีขึ้นถึงเวลา 22.00 น.โดยมีนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ปราศรัยปิดเวที.