กรณี น.ส.นัฐพร แม่เด็ก 8 ขวบ พร้อมทนายธรรมราช สาระปัญญา เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาท “หนุ่ม กรรชัย-ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” จากการโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

แม่เด็ก8ขวบมาแล้ว! ขึ้นโรงพักทองหล่อ รับทราบข้อกล่าวหาหมิ่น ‘หนุ่ม กรรชัย’

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วงเย็นวันที่ 7 ส.ค. ทนายธรรมราช กล่าวหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วว่า ก่อนหน้านี้ทางลูกความ เคยเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหามาแล้ว ส่วนตัวมองว่าโพสต์ดังกล่าวไม่เข้าข่ายการกระทําผิดกฎหมายในข้อหาหมิ่นประมาทฯ แต่ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะได้หยิบยกมาใช้ในการดําเนินคดีฝ่ายที่กล่าวหาได้ ในความผิดฐาน “แจ้งความเท็จ”

น.ส.นัฐพร กล่าวว่า วันนี้รู้สึกสบายใจและไม่กังวล เพราะเป็นเหตุให้ฝั่งตนสามารถแจ้งความได้อีก 1 คดี เพราะเห็นได้ชัดว่าประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหาที่สามารถกล่าวหาใครก็ได้ แต่เมื่อกล่าวหาแล้วก็จะต้องรับผิดชอบกับผลที่ตามมา ซึ่งวันที่ตนโพสต์ข้อความเป็นการบอกเล่าในลักษณะว่า ได้ทําอะไรบ้างเพราะญาติธรรมเป็นห่วงน้อง ว่าขั้นตอนการดําเนินการเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งไม่ใช่การวิพากษ์วิจารณ์และไม่ได้เอ่ยชื่อบุคคลใด โดยยืนยันไม่ใช่การใส่ความ เป็นเพียงการบอกว่า วันนั้นมาทําอะไรบ้าง ซึ่งหลังจากนี้จะดําเนินการฟ้องกลับผู้ที่กล่าวหาทั้งหมดในข้อหาแจ้งความเท็จเช่นกัน

ส่วนการเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนหน้านี้ ถือเป็นสิทธิที่สามารถทําได้ โดยแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าติดภารกิจ และจะเข้ามาพบภายในวันที่ 11 ส.ค. 67 ซึ่งวันนี้ก็ยังอยู่ในกรอบที่ระบุไว้ และเป็นวันที่ตรงกับวันที่ตนนัดหมายจะไปทําบุญในภาคเหนือ จึงถือฤกษ์เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งการฟ้องกลับในพื้นที่ สน.ทองหล่อ นั้น ขณะนี้ได้ให้ทีมกฎหมายดูรายละเอียดในความผิดฐาน “ทําให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย” เนื่องจากโพสต์ดังกล่าวไม่เข้าข่ายความผิด แต่ฝั่งตรงข้ามพยายามจะเอาผิดให้ได้

ส่วนกรณีการจัดกิจกรรมสอนธรรมะในวันที่ 22 ก.ย. 67 ยังคงดําเนินการต่อ แม้มีคนบางกลุ่มมองว่าไม่เหมาะสม จึงอยากถามกลับว่า ไม่เหมาะสมอย่างไร ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีคนให้ความสนใจเป็นจํานวนมากถึงขั้นระบบบลงทะเบียนล่ม โดยผู้เข้าร่วมจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะมีผู้สนับสนุน ส่วนใครจะมาหรือไม่มา ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเพราะตนไม่ได้มีการบังคับ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทนายธรรมราช เคยแนะนําให้ทนายอนันต์ชัย ไปรักษาสุขภาพจิต ซึ่งตอนนี้มีพลังเงียบออกมาวิพากษ์วิจารณ์และไม่ยอมจบ ซึ่งฝ่ายตนอยู่ในพื้นที่ของตัวเองและไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่อีกฝ่ายพยายามเปิดประเด็นโจมตีอยู่เรื่อย จึงจําเป็นต้องลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิตัวเอง “ความจริงก็คือความจริง” ในส่วนของเรื่องการเรียนน้อง ที่ผ่านมาน้องเรียนดีได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.8-3.9 ซึ่งครอบครัวมีการจัดสรรเวลาอย่างเหมาะสม และไม่กระทบกับการเรียน ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นก็ทําในช่วงปิดเทอมเหมือนเด็กทั่วไป ต่างกันที่เป็นการสอนธรรมะเท่านั้น

สําหรับคดีทั้งหมดตอนนี้ที่ สน.ทองหล่อ มีทั้งสิ้น 4 คดี แต่จะมีการฟ้องกลับในคดีนี้เป็นคดีที่ 5 และอนาคตจะมีเพิ่มอีกรวม 8 คดี ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการหมิ่นประมาท ข่มขู่ การฟ้องกลับ และแจ้งความทนาย

ทั้งนี้ในส่วนกรณีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ศาลมีนัดฟังคําสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพน้องในวันที่ 28 ส.ค.นี้ ทนายธรรมราช ระบุว่า ไม่ขอก้าวล่วงคําตัดสินศาล แต่ยืนยันว่าไม่มีความกังวลใดๆ