เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 67 ที่พรรคก้าวไกล นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าก้าวหน้า จัดกิจกรรมเลกเชอร์สาธารณะหัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญกับการยุบพรรคการเมือง” ระบุว่า ประเทศไทยเอารูปแบบศาลรัฐธรรมนูญแบบตะวันตกมาใช้ในรูปแบบบิดผัน ใช้เป็นเครื่องมือจัดการยุบพรรคฝ่ายตรงข้าม ตามกติกาคณะกรรมาธิการเวนิส หรือคณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรปเพื่อประชาธิปไตย กำหนดเงื่อนไขการยุบพรรคต้องมีการใช้ความรุนแรงทำลายระบบรัฐธรรมนูญ แต่พรรคการเมืองไม่ต้องรับผิดชอบการกระทำของคนใด หากพรรคไม่ได้สั่งการ และการพิจารณายุบพรรคจะต้องเปิดกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นธรรม ไม่รู้นายทะเบียนพรรคการเมืองอ่านกติกานี้หรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ กมธ.เวนิส ประธานศาลรัฐธรรมนูญก็ไปประชุม กมธ.เวนิสบ่อยครั้ง และในเดือน ก.ย. ประเทศไทยก็จะเชิญ กมธ.เวนิสมาประชุม

นายปิยบุตร กล่าวว่า ดังนั้นขอให้เคารพกติกา กมธ.เวนิส ในการพิจารณาคดียุบพรรค อนาคตศาลรัฐธรรมนูญมองว่า ถึงเวลาต้องปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและกระบวนการได้มาซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตีกรอบขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ สส. อย่าพูดว่าไม่เห็นด้วยการยุบพรรค ใครๆ ก็พูดได้ โดยเฉพาะพรรคที่เคยเป็นผู้ประสบภัยการยุบพรรคมาก่อน ถ้าร่วมมือทั้งสภาทุกอย่างก็ง่าย ต้องรวมพลังแก้กฎหมายพรรคการเมือง ตีกรอบการยุบพรรค ขอให้เพื่อไทย ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ ร่วมมือเสนอกฎหมายยกเลิกยุบพรรค ฟากพรรคก้าวไกลถูกยุบ คนที่เหลือจะเดินหน้าต่อ เลือกตั้งปี 2570 จะได้กลับมาอย่างมากกว่าเดิม แต่คำว่าระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะมีความหมายอย่างไร ชีวิตตนที่เหลืออยู่ยืนยันจะรักษา 2 ระบอบ คือ สถาบัน และระบอบประชาธิปไตย

“ยืนยันว่าช่วงชีวิตที่ยังเหลือ แม้ไม่มีสิทธิทางการเมืองแล้ว แต่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาทั้ง 2 สถาบัน คือสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันประชาธิปไตย ใครจะกล่าวหาว่าผม ความคิดสุดโต่งล้มล้างอะไรก็ตามแต่ และหวังว่าการบรรยายวันนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ประเทศไทยและศาลรัฐธรรมนูญ ที่ทำหน้าที่รักษารัฐธรรมนูญและรักษาระบอบประชาธิปไตยจริงๆ” นายปิยบุตร กล่าว.