เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายธนพณ  เชี่ยวสุทธิ  ตัวแทนผู้สนับสนุนกฎหมายว่าด้วยเพศพาณิชย์ และคณะ ได้ยื่นหนังสือต่อ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เพื่อสนับสนุนให้ที่ประชุมพิจารณาผ่านร่างดังกล่าวโดย 3 เหตุผล ดังนี้ 1.รัฐธรรมนูญ มาตรา 40 บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่ง จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงหรือเศรษฐกิจของประเทศ การแข่งขันอย่างเป็นธรรม การป้องกันหรือขจัดการกีดกันหรือการผูกขาด การคุ้มครองบริโภค การจัดระเบียบการประกอบอาชีพเพียงเท่าที่จำเป็น หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่าว ย่อมคุ้มครองเสรีภาพในการประกอบอาชีพของบุคคลทุกคน เพียงให้การประกอบอาชีพนั้นไม่กระทบกระเทือนความมั่นคงหรือเศรษฐกิจของประเทศ การแข่งขันอย่างเป็นธรรม การป้องกันหรือขจัดการกีดกันหรือการผูกขาด การคุ้มครองผู้บริโภค เท่านั้น แต่อาชีพที่เกี่ยวกับเพศต่าง ๆ ไม่ว่าการผลิตสื่อบันเทิงทางเพศ (สื่อลามก) หรือ วัตถุทางเพศ (วัตถุลามก) ตลอดจนเพศพาณิชย์อื่น ๆ นั้นไม่มีลักษณะกระทบกระเทือนความมั่นคงหรือเศรษฐกิจของประเทศ การแข่งขันอย่างเป็นธรรม การป้องกันหรือขจัดการกีดกันหรือการผูกขาด การคุ้มครองผู้บริโภค แต่อย่างใด รัฐจึงไม่สมควรที่จะมีกฎหมายจำกัดเสรีภาพในการประกอบอาชีพดังกล่าวแต่อย่างใด

2. รัฐธรรมนูญ ให้อำนาจนิติบัญญัติออกกฎหมาย เป็นไปโดยคำนึงถึงหลักนิติธรรม ความเหมาะสม ความจำเป็น  ส่วนมาตรา 287 คือการห้ามมิให้เกิดการแพร่หลายของสิ่งของอันลามกเหล่านั้นไปในวงกว้าง แต่ในปัจจุบันการแพร่หลายของสิ่งของอันลามก ได้แพร่หลายได้ง่ายขึ้น โดยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยไม่ได้จำกัดการเข้าถึงของบุคคล จึงทำให้มีเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าถึงสื่อลามกเหล่านี้ได้ง่าย จึงเห็นความจำเป็นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 ให้มีการปรับปรุงแก้ไขให้สอดคคล้องต่อสภาพการณ์ของสังคมที่เปลี่ยมแปลงไป และ 3.ผลประโยชน์ในทางเศรษฐกิจประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมซึ่งมีผลผลิตเป็นยางพาราเป็นสินค้าเกษตร สำคัญอีกอย่างหนึ่งหากมีการแก้ไขกฎหมายให้มีการผลิต ส่งออกหรือจำหน่ายวัตถุบันเทิงทางเพศได้แล้ว ย่อมส่งผลให้เกิดอุตสาหกรรมเพศพาณิชย์และเกิดความต้องการยางพาราซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตมากขึ้นก่อให้เกิดตลาดยางพาราภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น จึงขอสนับสนุนให้ สส.ได้พิจารณารับหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร กับคณะ เป็นผู้เสนอ) เป็นร่างพ.ร.บ.ที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับเด็ก เยาวชน และสตรี

ด้านนายปดิพัทธ์  กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า ภาคประชาชน องค์กรเครือข่ายที่มีความกล้าหาญในการที่แสดงจุดยืนและสนับสนุนในสิทธิของท่านเอง วันนี้ทางสภามีการพิจารณา พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตนขอบคุณ สส.ทุกท่านที่เสนอร่างดังกล่าว คาดว่าสภาจะต้องมีความกล้าหาญในการหยิบยกทุกเรื่องในสังคมมาพูดคุยกันที่เกี่ยวข้องกับมิติต่าง ๆ อย่างมีวุฒิภาวะ และขอให้ติดตามการอภิปรายทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ตลอดจนการลงมติในร่างดังกล่าว

ด้านนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนเนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเป็นร่างที่เหมาะสมที่สุด  ซึ่งกระบวนการของร่างดังกล่าว จะต้องมีการพิจารณารับหลักการ และมีการตั้งคณะกรรมาธิการตามสัดส่วนที่เกี่ยวข้องกับเด็กและสตรี และหวังว่าจะได้ร่วมงานกันในเร็ว ๆ นี้

ขณะที่นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสิทธิที่จะตัดสินใจในการประกอบอาชีพ เป็นสิทธิมนุษยชนที่เขาใช้ร่างกายของเขา ดังนั้น การตัดสินใจไม่ควรมีกฎหมายอาญาเอาผิด เนื่องจากประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงก้าวข้าม สังคมปากว่าตาขยิบ ต้องยอมรับความเป็นจริงและต้องได้รับการดูแลต่อไป.