นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยินดีกับผลการประเมินของบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้ระบุว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นภายในปี 65 โดยมีปัจจัยหนุนจากอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การกลับมาเปิดธุรกิจอีกครั้ง และสภาพแวดล้อมจากทั่วโลกที่มีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตลอดจนอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทไทยรายใหญ่ต่าง ๆ มีเสถียรภาพเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้นายกฯ ยอมรับว่า ตามผลการประเมิน ได้สะท้อนถึงมุมมองของภาคเอกชนในต่างประเทศที่เชื่อมั่นต่อรัฐบาล และการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทย โดยย้ำว่ารัฐบาลพร้อมจะต่อยอดนโยบายที่เป็นประโยชน์กับการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจในประเทศให้แข็งแกร่ง สอดรับกับการเจรจากับต่างประเทศ และในกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อเพิ่มปฏิสัมพันธ์ในเวทีโลก ควบคู่กับการพัฒนาด้านสาธารณสุขอย่างครอบคลุมให้ทันต่อสถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลได้คำนึงถึงมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจควบคู่สาธารณสุขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะการประกาศเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนให้ครอบคลุมมากที่สุดจนเห็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นำร่องการท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยว จนขยายเป็นโครงการอื่น ๆ และนายกรัฐมนตรียังได้ประกาศจะเริ่มเปิดรับการเดินทางเข้าประเทศในวันที่ 1 พ.ย.64 นี้

อีกทั้งการวางนโยบายด้านเศรษฐกิจเพื่อรองรับการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด-19 อย่างมีศักยภาพ เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และความเชื่อมโยงภายในภูมิภาค โครงการรถไฟความเร็วสูง และการส่งเสริมการลงทุนที่สอดคล้องกับโมเดล เศรษฐกิจบีซีจีโมเดล ซึ่งนโยบายเหล่านี้เป็นการดำเนินการภายใต้วิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน