สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่านายฟาห์มี ฟาดซิล รมว.การสื่อสารมาเลเซีย ให้เหตุผลว่า ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียบางราย แสวงหากำไรจากชาวมาเลเซีย แต่ล้มเหลวกับการรับรองความปลอดภัยของผู้ใช้

“เมื่อปีที่แล้ว คาดว่าเฟซบุ๊กเพียงแห่งเดียวมีรายได้ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,302 ล้านบาท) จากมาเลเซีย แต่พวกเขาทำอะไรเพื่อให้แน่ใจว่า เงื่อนไขและการใช้งานในมาเลเซียจะปลอดภัย?” ฟาห์มีกล่าว “พวกเขาขาดความมุ่งมั่น ดังนั้น เราต้องศึกษาและประเมินสถานการณ์ การพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเราเองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่บางประเทศก็พยายามทำแล้ว เราจึงจะพิจารณาเรื่องนี้” รัฐมนตรีให้ความเห็นเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน ฟาห์มีพบปะกับผู้แทนของเมตา ที่เมืองปุตราจายา ทางตอนกลางของประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวกับการลบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับปาเลสไตน์ออกจากบัญชีโซเชียลมีเดียของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งต่อมาเมตาออกแถลงการณ์ขอโทษ และยืนยันการนำเนื้อหากลับคืนเข้าสู่ระบบให้แล้ว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาเลเซียเปิดตัวกรอบการกำกับดูแลแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และการส่งข้อความทางอินเทอร์เน็ต ให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ปฏิบัติตาม โดยบริษัทซึ่งได้รับแจ้ง ได้แก่ เฟซบุ๊กของเมตา, ติ๊กต็อกของไบต์แดนซ์ และเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์ ซึ่งการบังคับใช้ใบอนุญาตประเภทใหม่ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า

อนึ่ง ใบอนุญาตดังกล่าวมีอายุ 1 ปี ออกโดยคณะกรรมการการสื่อสารและมัลติมีเดียแห่งมาเลเซีย (เอ็มซีเอ็มซี) และบริษัทต่าง ๆ จะต้องยื่นขอใบอนุญาตทุกปี บริษัทแห่งใดที่ไม่ลงทะเบียนภายในวันที่ 1 ม.ค. 2568 อาจถูกปรับไม่เกิน 500,000 ริงกิต (ราว 3.9 ล้านบาท) หรือจำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ หากยังคงดำเนินกิจการในมาเลเซียต่อไป

ก่อนหน้านี้ ฟาห์มีเคยระบุว่า ระบบใบอนุญาตประเภทใหม่จะเพิ่มอำนาจในการออกกฎหมายของมาเลเซีย เพื่อให้แน่ใจว่าอินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัยมากขึ้นสำหรับเด็กและครอบครัว.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES